ขณะที่บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาเข้าซื้อกิจการในประเทศ ซึ่งเป็นธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าเชิงพาณิชย์ ขนาดมูลค่ากิจการประมาณ 400-500 ล้านบาท คาดว่าจะน่าจะได้ข้อสรุปในปีหน้า
นายบุญยง ตันสกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ SINGER กล่าวว่า บริษัทปรับลดเป้าหมายการเติบโตของรายได้ในปีนี้ลงมาอยู่ในช่วง 5-10% จากเดิมคาดว่าจะเติบโตกว่า 10% จากปีก่อนที่มีรายได้ 3.69 พันล้านบาท เนื่องจากครึ่งปีแรกบริษัทได้รับผลกระทบจากความไม่สงบทางการเมือง ซึ่งทำให้บริษัทหันไปเน้นการปรับปรุงลูกหนี้ให้มีคุณภาพมากขึ้น จึงส่งผลให้ยอดขายลดลงและทำให้รายได้ในครึ่งปีแรกของปี 57 ลดลง 5% เมื่อเทียบกับครึ่งปีแรกของปี 56
ทั้งนี้ รายได้ของ SINGER ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 57 อยู่ที่ 1.85 พันล้านบาท
อย่างไรก็ตาม อัตรากำไรสุทธิในปีนี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 10% จากปี 56 ที่มีอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 8% เป็นผลจากการควบคุมดูแลลูกหนี้ให้มีคุณภาพมากขึ้น ซึ่งมีลูกหนี้มีการชำระหนี้มากขึ้น ทำให้ระดับ NPL ครึ่งปีแรกลดลงมาอยู่ที่ 5.9% จากปีก่อนอยู่ที่ 6.5% ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้า NPL ในปีนี้ไม่เกิน 5.5% นอกจากนี้ บริษัทยังมีการเน้นการขายสินค้าให้กับลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูง ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าที่ให้มาร์จิ้นดี ซึ่งจะทำให้อัตรากำไรสุทธิของบริษัทเพิ่มขึ้น
"รายได้ปีนี้คงไม่เป็นไปตามเป้า 10% แต่อยู่ในช่วงที่ 5-10% เพราะครึ่งปีแรกเราเจอผลกระทบทางการเมือง ทำให้กำลังซื้อชะลอ และเราก็ไม่เน้นการขายมากแต่ไปโฟกัสการทำให้ลูกหนี้มีคุณภาพมากกว่า ทำให้ NPL เราลดลงเหลือ 5.9% ซึ่งมันไปกระทบยอดขายในครึ่งปีแรกลดลง 5% แม้ว่ารายได้จะโตน้อยแต่กำไรเราเติบโตได้ดีอยู่ในปีนี้ ซึ่ง Net Profit Margin ปีนี้คาดว่าเพิ่มเป็น 10% จากสิ้นปีก่อนที่ 8% เพราะเราทำลูกหนี้ให้มีคุณภาพและเน้นขายลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูง เพราะให้มาร์จิ้นที่ดี ซึ่งทำให้ครึ่งปีแรก Net Profit Margin เราเพิ่มขึ้นเป็น 9%"นายบุญยง กล่าว
ส่วนแผนการเข้าซื้อกิจการผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าเชิงพาณิชย์ในประเทศไทย หลังจากบริษัทแม่ได้มีการอนุมัติดำเนินการ เพื่อขยายฐานของบริษัทให้กว้างมากขึ้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาและศึกษารายละเอียดต่างๆ ของบริษัทที่จะเข้าซื้อกิจการ โดยมูลค่ากิจการอยู่ที่ 400-500 ล้านบาท คาดว่าจะมีความชัดเจนภายในปี 58
"การทำ M&A ที่เป็นนโยบายของบริษัทแม่อยากให้เราโตไปมากกว่านี้อีกก้าวหนึ่ง การทำ M&A ก็จะทำให้ฐานเราใหญ่ขึ้นอีก เราได้มีการศึกษาและพูดคุยกับบริษัท SMEs เล็กๆในประเทศไทยที่ทำธุรกิจสินค้าเชิง Commercial ที่คล้ายๆกับเรา เพื่อเป็นการเสริม Synergy ซึ่งบริษัทที่เรามองๆก็เป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้า และเค้าก็มี Innovation ใหม่ๆมาช่วย Support สินค้าของเรา แต่การคุยเราก็คุยกับเขานานๆหน่อย เพราะเขาก็เป็นเถ้าแก่ ต้องใช้เวลา ผมอยากให้มันชัดเจนออกมาได้ในปีหน้า แต่ไตรมาส 4 ปีนี้จะออกมาเล่าให้ฟังความคืบหน้าอีกที"นายบุญยง กล่าว