ขณะที่ บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย)เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นในครั้งนี้ พร้อมด้วยผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการ จำหน่าย(Co-Underwriter) อีก 4 แห่ง ประกอบด้วย บล.ฟินันเซีย ไซรัส, บล. โนมูระ พัฒนสิน, บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) และ บล.แอปเปิ้ลเวลท์
วัตถุประสงค์การระดมทุนครั้งนี้เพื่อใช้ในการขยายสาขาศูนย์ทันตกรรม 3 สาขา เพื่อรองรับการให้บริการครอบคลุมกลุ่มพื้นที่เป้าหมายเพิ่มขึ้น และปรับปรุงบางสาขาของศูนย์ทันตกรรม ใช้เงินประมาณ 40 ล้านบาท และใช้ซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์และระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ใช้เงินประมาณ 40 ล้านบาท รวมถึงใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ ประมาณ 94.60 ล้านบาท
LDC ประกอบธุรกิจศูนย์ทันตกรรมทันตแพทย์เฉพาะทาง ในนามศูนย์ทันตกรรม แอลดีซี ปัจจุบันมีสาขาทั้งสิ้น 20 สาขา ครอบคลุมพื้นที่ให้บริการในกรุงเทพฯ และจังหวัดใกล้เคียง เช่น นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ
นายวิชา โตมานะ กรรมการผู้จัดการ สายวาณิชธนกิจ บล.ฟิลลิป (ประเทศ ไทย)กล่าวว่า การกำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO ของ LDC ที่ 1.50 บาทต่อหุ้นเป็นระดับราคาที่เหมาะสม คิดเป็นมูลค่าการระดมทุนในครั้งนี้ 180 ล้านบาท ทั้งนี้ ภายหลังการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ จะมีทุนจดทะเบียนชำระแล้วทั้งจำนวน 100 ล้านบาทจากทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 70 ล้านบาทในปัจจุบัน โดยครอบครัวชัยวัฒน์เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ที่ร้อยละ 69.80
"คาดว่า LDC จะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน อีกทั้งหุ้น LDC ยังเป็นหุ้นทันตกรรมตัวแรกที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อีกด้วย ด้วยจุดเด่นของธุรกิจในเรื่องมาตรฐานทางการรักษาและการบริการที่เป็นมาตรฐานเดียวกันทุกสาขา ในการเป็นศูนย์ทันตกรรมที่ครบวงจร โดยเน้นการให้บริการโดยทันตแพทย์เฉพาะทาง มีศูนย์ฝึกอบรมผู้ช่วยทันตกรรมเพื่อรองรับและแก้ปัญหาการขาดแคลนผู้ช่วยทันตแพทย์ มั่นใจนักลงทุนจะสนใจจองซื้อหุ้นLDC จำนวนมาก"นายวิชา กล่าว
ด้านทันตแพทย์วัฒนา ชัยวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ LDC กล่าวว่า หลังจากบริษัทได้เข้ามาระดมทุนในครั้งนี้ถือเป็นการสร้างโอกาส และการเติบโตอย่างแข็งแกร่งให้ LDC ในอนาคต อีกทั้งยังส่งผลให้เกิดความน่าเชื่อถือแก่องค์กร และสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้มาใช้บริการ จนสามารถขยายการดำเนินงานให้เติบโตได้อย่างมีศักยภาพ
"การระดมทุนในครั้งนี้ จะช่วยให้ LDC ขยายสาขาได้รวดเร็ว และเป็นที่ยอมรับในเรื่องบรรษัทภิบาลและความน่าเชื่อถือ รวมทั้งเป็นการสร้างโอกาสในการเจรจาทางธุรกิจอื่นๆ อีกมากมาย เพื่อการเติบโตและความแข็งแกร่งในธุรกิจศูนย์ทันตกรรมที่มีมาตรฐาน นอกจาก ความพร้อมทางการเงินในการขยายสาขาอย่างต่อเนื่องแล้ว บริษัทยังมีโอกาสศึกษาการขยายธุรกิจในช่องทางต่างๆ อีกด้วย จากปัจจุบัน LDC มีสาขาแล้วทั้งสิ้น 20 สาขา"ทันตแพทย์ วัฒนา กล่าว
ขณะที่นายเสกสรรค์ ธโนปจัย กรรมการผู้จัดการ APM กล่าวว่า มั่นใจหุ้น IPO ของ LDC จะได้รับความสนใจจากนักลงทุน เนื่องจากบริษัทมีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่งและรายได้มีโอกาส ขยายตัวอีกมาก จากการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมาตรฐานและคุณภาพในการประกอบวิชาชีพทางทันตกรรม ทันตแพทย์เฉพาะทาง และเป้าหมายการขยายสาขาให้ครอบคลุมทุกภูมิภาค ถือเป็นการเพิ่มช่องทางสัดส่วนรายได้ให้มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องและมั่นคง ในอนาคต
"มั่นใจว่าจะได้รับความสนใจจองซื้อหุ้นไอพีโอ LDC ในวันเปิดให้จองซื้ออย่างล้นหลาม เห็นได้จากการไปโรดโชว์ทั้ง 10 จังหวัด นักลงทุนแสดงความสนใจอย่างมาก และคาดว่าหลังจากดำเนินการตามขั้นตอนต่างๆ ของ ก.ล.ต.และตลาดหลักทรัพย์เรียบร้อยแล้วจะสามารถลงสนามเทรดได้ภายในต้นกันยายนนี้"นายเสกสรรค์ กล่าว