ภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยประจำสัปดาห์: มีมูลค่าการซื้อขายรวม 314,651 ลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday August 25, 2014 16:03 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ประจำสัปดาห์ (18 – 22 สิงหาคม 2557) ปริมาณการซื้อขายตราสารหนี้มีมูลค่ารวม 314,651 ล้านบาท หรือเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณวันละ 62,930 ล้านบาท ปรับตัวลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้าประมาณ 12% ทั้งนี้เมื่อแยกตามประเภทของตราสารแล้วจะพบว่ากว่า 76% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด หรือประมาณ 240,279 ล้านบาท เป็นการซื้อขายในตราสารหนี้ที่ออกโดยธนาคารแห่งประเทศไทย(State Agency Bond) ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเป็นตราสารที่มีอายุคงเหลือค่อนข้างน้อย(ไม่เกิน 6 เดือน) ขณะที่พันธบัตรรัฐบาลที่ออกโดยกระทรวงการคลัง(Government Bond) มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 34,077 ล้านบาท และหุ้นกู้ที่ออกโดยภาคเอกชน(Corporate Bond) มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 8,093 ล้านบาท หรือคิดเป็น 11% และ 3% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้น ตามลำดับ

สำหรับพันธบัตรรัฐบาล รุ่นที่มีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุด 3 อันดับแรกคือรุ่น LB196A(อายุ 4.8 ปี) LB296A(อายุ 14.8 ปี) และ LB155A(อายุ 0.8 ปี) โดยมีมูลค่าการซื้อขายในแต่ละรุ่นเท่ากับ 10,839 ล้านบาท 7,198 ล้านบาท และ 3,207 ล้านบาท ตามลำดับ ส่วนพันธบัตรที่ออกโดยธนาคารแห่งประเทศไทย รุ่นที่มีปริมาณซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรก คือรุ่น CB14N20B(อายุ 91 วัน)CB14909A(อายุ 14 วัน) และ CB14O30A(อายุ 69 วัน) มูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 27,239 ล้านบาท 26,197 ล้านบาท และ 15,565 ล้านบาท ตามลำดับ

ขณะที่หุ้นกู้ภาคเอกชน ที่มีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ หุ้นกู้ของบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) รุ่น CPF328A (AA-) มูลค่าการซื้อขาย 417 ล้านบาท หุ้นกู้ของบริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด(มหาชน) รุ่น BGH233A(A+) มูลค่าการซื้อขาย 315 ล้านบาท และหุ้นกู้ของบริษัท การบินไทย จำกัด(มหาชน) รุ่น THAI16DA(A+) มูลค่าการซื้อขาย 305 ล้านบาท

ราคาของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 3 ปีขึ้นไป ปรับตัวลดลงเล็กน้อย หรือผู้ซื้อจะได้ผลตอบแทน(Yield) เพิ่มขึ้นประมาณ 0.03% - 0.06% ล่าสุดสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) รายงานตัวเลข GDP ของไทยในไตรมาส 2/57 ขยายตัว 0.4% YOY(เทียบกับไตรมาสเดียวกันปีก่อนหน้า) จากที่หดตัว 0.5% YOY ในไตรมาสก่อน พร้อมคาดว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2557 จะขยายตัว 1.5% - 2.0% ตัวเลขดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงแนวโน้มการฟื้นตัวที่ดีขึ้นของเศรษฐกิจไทย และมีส่วนทำให้เม็ดเงินต่างชาติยังคงไหลเข้าสู่ตราสารหนี้ระยะยาวของไทย อย่างไรก็ตาม ภายหลังการเปิดเผยรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ครั้งล่าสุด ที่ส่งสัญญาณว่า Fed อาจจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเร็วกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ส่งผลให้มีเงินบางส่วนโยกออกจากพันธบัตรสหรัฐฯ และส่งผลให้ Yield ของพันธบัตรสหรัฐฯ เพิ่มสูงขึ้น(ราคาลดลง) โดยเฉพาะในตราสารระยะยาว ซึ่งมีส่วนทำให้ Yield ของพันธบัตรไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นไปในทิศทางเดียวกัน

นักลงทุนต่างชาติมียอด ขายสุทธิ ในตราสารหนี้ทุกประเภท(ทั้งระยะสั้น และระยะยาว) รวมกัน 7,209 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นการขายสุทธิในตราสารหนี้ระยะสั้น(อายุคงเหลือน้อยกว่า 1 ปี) 9,779 ล้านบาท และซื้อสุทธิในตราสารหนี้ระยะยาว 2,569 ล้านบาท ทางด้านนักลงทุนรายย่อยมียอดซื้อสุทธิ 347 ล้านบาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ