"ก่อนหน้านี้เราคาดว่าหลังจากที่การเมืองจบแล้ว สถานการณ์ต่างๆ ทั้งความมั่นใจกำลังซื้อจะกลับมาเร็วกว่านี้แต่ตอนนี้ระยะเวลายืดเยื้อมาถึงช่วงกลางไตรมาส 3 แล้วความมั่นใจกำลังซื้อก็ยังไม่กลับมาเร็วเท่าที่ควร เราจึงปรับเป้าหมายรายได้ลงมา"นายสุทธิรักษ์ กล่าว
นายสุทธิรักษ์ กล่าวว่า ปัจจุบัน บริษัทมียอดขายรอโอน(backlog)ในมือราว 120 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่จะรับรู้เป็นรายได้ในช่วงไตรมาส 3/57 ประมาณ 100 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะรับรู้ฯในช่วงไตรมาส 4/57 ทั้งหมด ขณะที่ในช่วงครึ่งปีหลังบริษัทเตรียมแผนเปิดตัวโครงการใหม่อีก 1 โครงการ มูลค่าโครงการราว 300-400 ล้านบาท หลังจากช่วงครึ่งปีแรกบริษัทเปิดตัวโครงการไปแล้ว 2 โครงการ มูลค่าราว 700 ล้านบาท
บริษัทได้ชะลอแผนการพัฒนาที่ดินเนื้อที่ 104 ไร่ ในจังหวัดภูเก็ตออกไปจากปีนี้ หลังจากเกิดสถานการณ์ทางการเมืองทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยลดลง โดยคาดว่าจะเห็นความคืบหน้าของการลงทุนในโครงการดังกล่าวช่วงกลางปี 58 ซึ่งในแผนเดิมจะพัฒนาเป็นโครงการ Mixed Use Products ประกอบด้วย วิลล่า โรงแรม และคอนโดมิเนียม
ขณะเดียวกัน บริษัทหันมาวางแผนขยายโครงการไปยังภาคอีสาน เนื่องจากเห็นศักยภาพและโอกาสในการเติบโตของโครงการที่พักอาศัย เบื้องต้นบริษัทก็ได้เข้าซื้อที่ดินในจังหวัดอุดรธานีไว้แล้ว จากงบลงทุนเพื่อจัดซื้อที่ดินใหม่ที่ตั้งไว้ในปีนี้ 300 ล้านบาท ขณะนี้ใช้ไปแล้วกว่า 200 ล้านบาท
"การทำแผนพัฒนาที่ดินในจังหวัดภูเก็ตชะลอไปจากการเมืองทำให้นักท่องเที่ยวลดลง แต่ปีหน้าเราก็คงจะได้เห็นความคืบหน้าของโครงการมากขึ้น ในขณะเดียวกันปีนี้เราก็เริ่มมองหาทำเลใหม่ๆเพื่อที่จะทำโครงการใหม่ๆ ซึ่งเราก็มองในโซนอีสาน เพราะมีตลาดหลายระดับ ซึ่งเรามองเห็นช่องที่สามารถเข้าไปบุกได้ ปัจจุบันเองเราก็ได้ไปซื้อที่ดินในอุดรธานีแล้ว"นายสุทธิรักษ์ กล่าว