ขณะที่ปัจจัยภายนอก โอกาสที่ธนาคารกลางยุโรป(อีซีบี)จะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมจากแถลงการณ์ของ นายมาริโอ ดรากิ ที่เมืองแจ็คสัน โฮล เมื่อสัปดาห์ก่อนทำให้มองโอกาสที่ตลาดหุ้นจะปรับตัวเพิ่มขึ้นด้วยเม็ดเงินที่จะมีเข้ามาสู่ระบบ เพิ่มขึ้น แต่ยังรอดูในส่วนการประชุมอีซีบีต้นเดือนหน้า สัปดาห์นี้อาจมองเรื่องตัวเลขเงินเฟ้อของยุโรปจะออกมาในระดับต่ำตามที่คาด การณ์และผลักดันให้อีซีบีออกมาตรการมาหรือไม่
ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐสัปดาห์นี้ออกมาไร้ทิศทาง จากช่วงก่อนหน้าค่อนข้างสดใส ทำให้คาดการณ์ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)อาจจะปรับดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาด แต่ล่าสุดประธานเฟดไม่ได้มีการระบุหรือส่งสัญญาณเรื่องกรอบเวลาชัดเจนว่าจะปรับขึ้นอัตรา ดอกเบี้ยเมื่อใด
ตลาดยังอยู่ในกรอบของการปรับขึ้นแม้จะปรับขึ้นยาวนานและมีโอกาสที่จะพัก มองจังหวะพักเนื่องจากมีปัจจัยภายใน ซัพพอร์ตอาจจะลงไม่มาก สามารถเข้าเก็งกำไรฝั่ง long ได้ถ้าขยับขึ้นไปแนวต้านรอบนี้ดูที่ 1,050 จุด จะผ่านได้หรือไม่
กลยุทธ์เน้นฝั่ง long แนวรับ 1,040 และ 1,036 จุด พรุ่งนี้ปัจจัยที่ต้องติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐทั้งยอดสั่งซื้อ สินค้าคงทน และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค
ดัชนี SET 50 ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,046.19 จุด ลดลง 2.34 จุด, -0.22%
ปริมาณ สถานะคงค้าง Total Market 156,510 1,201,847 Total Futures 156,016 1,194,516 SET50 Index 37,273 227,134 Sector Index - - Single Stock 112,340 932,107 Precious Metal 5,930 25,131 -GF10 5,018 20,466 -GF50 912 4,665 -Silver - - Curency 404 9,579 Energy 69 565 Interest Rate - - Total Options 494 7,331 Call 247 3,077 Put 247 4,254 สรุปปริมาณการซื้อขายตามกลุ่มผู้ลงทุน นักลงทุนสถาบัน นักลงทุนต่างชาติ นักลงทุนภายในประเทศ Futures -40,126 +705 +39,421 Options +38 - -38