สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย(ThaiBMA)สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ไทย(26 ส.ค. 57) มีมูลค่าการซื้อขายรวม 68,542 ล้านบาท โดยประเภทของตราสารที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุด คือ พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย โดยมีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 53,015 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 77.3% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวันนี้ ลำดับถัดมาคือ พันธบัตรรัฐบาล มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 7,156 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 10.4% ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 2,044 ล้านบาท หรือคิดเป็น 3.0% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด
สำหรับ พันธบัตรรัฐบาล รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุดในวันนี้คือ พันธบัตรรุ่น LB176A, LB196A และ LB193A (รุ่นอายุ 2.8 ปี, 4.8 ปี และ 4.6 ปี ตามลำดับ) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 4,986 ล้านบาท หรือคิดเป็น 70% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้านหุ้นกู้เอกชนรุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. หุ้นกู้บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน)(CPALL178B) มูลค่า 425.1 ล้านบาท
2. หุ้นกู้ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน)(THAI16DA) มูลค่า 274.5 ล้านบาท
3. หุ้นกู้ของธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน)(KK18DA) มูลค่า 157.0 ล้านบาท
โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 856.6 ล้านบาท หรือคิดเป็น 41.9% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมดในวันนี้
ทางด้านประเภทของนักลงทุน ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุดเป็น 2 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 8,985 ล้านบาท
2. กลุ่มบริษัทจดทะเบียนในประเทศ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 1,195 ล้านบาท
ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 4,586 ล้านบาท
ผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 3 เดือน ปิดที่ 2.01% ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเมื่อวาน และผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี ปิดที่ 3.08% ปรับตัวลดลงจากเมื่อวาน -0.02%
Yield Curve ปรับลดลงในตราสารอายุ 3-20 ปี ประมาณ 1-2 bps. นักลงทุนยังคงจับตาตัวเลขเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะตัวเลข GDP ไตรมาส 2/2014 ของสหรัฐฯ ที่จะประกาศออกมาในสัปดาห์นี้ ซึ่งตลาดคาดว่า จะเติบโตประมาณ 3.9% ลดลงเล็กน้อยจากไตรมาสก่อนที่เติบโต 4.0% สำหรับนักลงทุนต่างชาติวันนี้ มียอดซื้อสุทธิ (NET BUY) เท่ากับ 4,586 ล้านบาท โดยเฉพาะพันธบัตร ธปท.รุ่น CB14N27B ที่ประมูลในวันนี้