แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทยังหวังว่าหากสถานการณ์ของราคาเหล็กปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง อาจไม่จำเป็นต้องหาแนวทางอื่นมาลด D/E ลงก็ได้
"เราอยู่ระหว่างหาแนวทางในการที่จะลด D/E ลง จากปัจจุบันอยู่ในระดับที่สูงมาก ซึ่งรูปแบบเองเราก็ยังไม่ได้ข้อสรุป เราก็จะหาแนวทางที่ดีที่สุด แต่อย่างไรก็ตามอาจจะไม่ต้องหาวิธีการลดหนี้ลงก็ได้หากสถานการณ์ราคาเหล็กปรับตัวดีขึ้นเรื่อยๆ เงินที่เข้ามาก็จะค่อยๆเป็นตัวที่ช่วยในการลดหนี้ได้เองอยู่แล้ว"นายณรงค์ฤทธิ์ กล่าว
ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลังจะขาดทุนลดลงอย่างต่อเนื่อง หลังจากส่วนต่างราคาขายเหล็กกับสินแร่เหล็ก(สเปรด)ปรับตัวดีขึ้น โดยคาดว่ากำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อม และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) โดยเฉพาะของโรงถลุงเหล็กที่อังกฤษ(SSI UK)จะเป็นบวกต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปีนี้ หลังจากเริ่มเป็นบวกตั้งแต่เดือน มิ.ย.57 เนื่องจากต้นทุนปรับลดลงทั้งในส่วนของแร่เหล็กและถ่านหิน รวมถึงการเลือกวัตถุดิบที่มีราคาถูกกว่ามาใช้ด้วย
ขณะเดียวกัน คาดว่ากำลังการผลิตของ SSI UK จะปรับเพิ่มสูงขึ้นเป็น 80-90% ในเดือน ต.ค.57 จากปัจจุบันใช้กำลังการผลิตกว่า 70% และทั้งปีบริษัทยังคงเป้าปริมาณการขายของ SSI UK ไว้ที่ 3.2 ล้านตัน ส่วนปริมาณการขายเหล็กแผ่นรีดร้อนชนิดม้วนในปีนี้มีเป้าหมายอยู่ที่ 2.1 ล้านตัน ใกล้เคียงกับปีก่อน โดยเชื่อว่าครึ่งปีหลังปริมาณการขายเหล็กจะปรับตัวดีขึ้นจากโครงการลงทุนภาครัฐฯที่จะทยอยออกมาอย่างต่อเนื่อง
"สเปรดที่ปรับตัวดีขึ้น ประกอบกลับ EBIDA ของโรงถลุงเหล็ก SSI UK ปรับตัวเป็นบวกอย่างต่อเนื่อง จากการที่เรามีการบริหารจัดการต้นทุนให้ลดลง ทั้งในส่วนของกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นทำให้ถึงจุดคุ้มทุน ประกอบกับแร่เหล็กและถ่านหินที่ปัจจุบันมี Supply ในตลาดค่อนข้างมากทำให้ราคาลดลง รวมถึงการเลือกใช้วัตถุดิบที่ราคาถูกลงมาใช้ ทำให้บริษัทฯขาดทุนลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วงครึ่งปีหลัง"นายณรงค์ฤทธิ์ กล่าว