บทวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.บัวหลวง ระบุว่า บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ(BGH) ประกาศซื้อโรงพยาบาล สิริโรจน์ ซึ่งใหญ่อันดับ 2 ในภูเก็ต ด้วยเงินลงทุน 3.6 พันล้านบาท โดยเป็น รพ.ที่มีกำไรครึ่งปีแรกอยู่ที่ 66 ล้านบาท คิดเป็น PE ในการซื้อ ที่ 27 เท่า ถือว่าแพงสุดเท่าที่ BGH เคยซื้อมา การซื้อกิจการนี้ส่งผลให้ส่วนแบ่งตลาดในภูเก็ตเพิ่มเป็น 90% และภาคใต้เพิ่มเป็น 28% ส่วนกำไรปีหน้าคาดเพิ่มขึ้นราว 2% และ ราคาเป้าหมายบวกเพิ่ม 0.50 บาท คงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมายเดิม 20.5 บาท
ส่วน บล.เอเชียพลัส มองว่า ปัจจุบัน BGH มีกิจการรพ.ที่เปิดดำเนินงานแล้ว 34 แห่ง และมีรพ.ที่พร้อมเปิดหรืออยู่ระหว่างการก่อสร้างอีก 9 รพ. รวมทั้งหมด 43 แห่ง เมื่อรวมกับรพ. สิริโรจน์ จะทำให้ BGH มีรพ.ในมือแล้ว 44 แห่ง โดยโรงพยาบาลสิริโรจน์ มีจำนวนเตียงจดทะเบียน 151 เตียง มีศักยภาพในการรองรับการขยายเป็นโรงพยาบาลขนาด 281 เตียง ณ สิ้นปี 2556 มีสินทรัพย์ตามบัญชีที่ 939 ล้านบาท มีหนี้สินตามบัญชีที่ 300 ล้านบาท และส่วนของผู้ถือหุ้นที่ 639 ล้านบาท โดยมีรายได้รวม 1,033 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 110 ล้านบาท
ทั้งนี้ การซื้อกิจการรพ. ดังกล่าวจะใช้เงินสดสูงถึง 3.6 พันล้านบาท พร้อมทั้งยังรับภาระหนี้สินอีกราว 416 ล้านบาท ทำให้ BGH จะมีภาระดอกเบี้ยเพิ่มไม่ต่ำกว่าปีละ 120 ล้านบาท ซึ่งน่าจะใกล้เคียงกับกำไรของบริษัทในปีนี้
อย่างไรก็ตาม หลังจาก BGH เข้าไปดำเนินงานและปรับปรุงขยายกิจการคาดภายใน 2-3 ปีข้างหน้า กำไรของกิจการจะมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นกว่าภาระดอกเบี้ยจ่ายที่เกิดจากดีลนี้ค่อนข้างมาก โดย BGH จะสามารถใช้ รพ.ดังกล่าวรองรับฐานลูกค้าระดับกลางที่เพิ่มขึ้นในเขตภาคใต้ทั้งชาวไทยและต่างชาติ โดยเฉพาะตลาดการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ในจังหวัดภูเกิต รวมทั้งยังเป็นช่องทางการส่งต่อคนไข้ให้แก่รพ.ในเครือ เนื่องจากดีลดังกล่าวยังไม่มีผลต่อประมาณการอย่างมีนัยฯ ทำให้ฝ่ายวิจัยยังคงประมาณการเดิม โดยคาดกำไรปกติปี 2557 จะเติบโตจากปีก่อนหน้า 17.7% และเติบโตต่อเนื่องในปี 2558 อีกราว 13%