LDC เริ่มซื้อขายใน mai 2 ก.ย.ระดมทุน 180 ลบ.ขยายสาขาศูนย์ทันตกรรม

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday September 1, 2014 13:04 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เปิดเผยว่า บมจ. แอลดีซี เด็นทัล (LDC) จะเข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai ในวันที่ 2 กันยายน 2557 โดย LDC เป็นผู้ให้บริการทางทันตกรรมทันตแพทย์เฉพาะทางด้วยคุณภาพระดับสูง ครบวงจร ภายใต้แบรนด์ “LDC" ปัจจุบันมีศูนย์ทันตกรรมให้บริการจำนวน 19 สาขา และคลินิกทันตกรรมทั่วไป 1 แห่ง ตั้งอยู่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล อีกทั้ง LDC ยังมีสถาบันฝึกอบรมผู้ช่วยทันตกรรมของตัวเอง สำหรับผลิตบุคลากรสนับสนุนงานด้านทันตกรรม เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจในอนาคต

LDC มีทุนชำระแล้ว 100 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 280 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน 120 ล้านหุ้น โดยเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนทั้งจำนวนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ในราคาหุ้นละ 1.50 บาท เมื่อวันที่ 26 – 28 สิงหาคม 2557 คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 180 ล้านบาท โดยมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 600 ล้านบาท มีบริษัทแอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และบริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นแกนนำในการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่าย

ทันตแพทย์วัฒนา ชัยวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ LDC เปิดเผยว่า รู้สึกเป็นเกียรติและมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ LDC เป็นผู้ให้บริการด้านทันตกรรมรายแรกที่ได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai ซึ่งนับเป็นอีกก้าวสำคัญที่จะช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ ชื่อเสียง ความแข็งแกร่งด้านเงินทุนให้กับบริษัท โดยจะนำเงินระดมทุนครั้งนี้ ไปลงทุนขยายสาขาให้ครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑล และหัวเมืองใหญ่ๆ ในแต่ละภูมิภาค ซึ่งจะเป็นการเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ เพิ่มสัดส่วนรายได้ให้มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องและมั่นคงในอนาคต ทั้งนี้ บริษัทวางเป้าหมายขยายสาขาใหม่ จำนวน 5 สาขา ภายใน 1 ปี

LDC มีผู้ถือหุ้นใหญ่ 3 ลำดับแรกหลัง IPO ได้แก่ กลุ่มครอบครัวชัยวัฒน์ ถือหุ้น 69.85% นายพิชิต ชินวิทยากุล 0.41% กลุ่มครอบครัวก่อธรรมฤทธิ์ 0.37% การกำหนดราคาเสนอขายหุ้นครั้งนี้คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไร (P/E ratio) ที่ 75 เท่า ซึ่งคำนวณจากผลประกอบการ 4 ไตรมาสย้อนหลัง (1 กรกฎาคม 2556 – 30 มิถุนายน 2557) หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นครั้งนี้ (fully diluted) คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 0.02 บาทต่อหุ้น

ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและทุนสำรองต่างๆทั้งหมด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ