ทั้งนี้ จะเปิดจองซื้อแก่นักลงทุนทั่วไปในช่วงวันที่ 8-12 ก.ย.นี้ และในวันที่ 15-16 ก.ย.จะทำการสำรวจราคา หรือทำ BookBuild ก่อนที่จะประกาศราคาขายสุดท้ายในวันที่ 17 ก.ย.นี้
นางวันทนา คาดว่า กอง IMPACT Growth REIT จะเข้าจดทะเบียนและเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ได้ประมาณวันที่ 1 ต.ค.นี้
ทั้งนี้ อิมแพ็คฯ จะขายทรัพย์สิน 4 รายการให้แก่ กอง IMPACT Growth REIT ได้แก่ 1. ศูนย์จัดการแสดงอิมแพ็คอารีน่า (IMPACT Arena) 2. ศูนย์แสดงสินค้าและนิทรรศการนานาชาติรวมถึงสถานที่สำหรับจัดงานในร่ม (IMPACT Exhibition Center)ที่มีจำนวน 8 อาคาร และห้องประชุม 6 ห้อง 3. ศูนย์การประชุมอิมแพ็คฟอรั่ม (IMPACT Forum) มีจำนวน 2 อาคาร และ 4.อาคารอิมแพ็คชาเลนเจอร์ (IMPACT Challenger) มีจำนวน 3 อาคาร ห้องบอลรูม 1 ห้องและห้องประชุม 16 ห้อง
นางวันทนา กล่าวว่า อิมแพ็คฯ จะรับรู้กำไรจากการขายทรัพย์สินดังกล่าว และจะเข้ามาถือหน่วยลงทุนกอง IMPACT Growth REIT สัดส่วน 50% ขณะที่ บมจ.บางกอกแลนด์ (BLAND) ซึ่งเป็นบริษัทแม่อิมแพ็ค ที่ถือหุ้น 100% กลับไม่สามารถรับรู้กำไรได้ ตามมาตรฐานบัญชี เพราะในงบการเงินรวมของ BLAND ได้รวมงบการเงินของอิมแพ็คฯไว้อยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม อิมแพ็คฯ ก็สามารถจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นหรือ BLAND ก็จะทำให้ BLAND ได้รับรายได้พิเศษจากส่วนนี้
อนึ่ง บริษัท อาร์ เอ็ม ไอ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย 100% ของ BLAND เป็นผู้ดำเนินการจัดตั้งกองทรัสต์เมื่อการออกและเสนอขายหน่วยทรัสต์ของ กอง IMPACT Growth REIT