ภาวะตลาดตราสารหนี้ไทย: วันนี้มีมูลค่าการซื้อขายรวม 87,667 ล้านบาท

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday September 2, 2014 18:09 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย(ThaiBMA)สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยวันนี้ มีมูลค่าการซื้อขายรวม 87,667 ล้านบาท โดยประเภทของตราสารที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุด คือ พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย โดยมีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 71,152 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 81.2% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวันนี้ ลำดับถัดมาคือ พันธบัตรรัฐบาล มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 11,460 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 13.1% ทางด้านหุ้นกู้เอกชนมีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 2,410 ล้านบาท หรือคิดเป็น 2.7% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด

สำหรับ พันธบัตรรัฐบาล รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุดในวันนี้คือ พันธบัตรรุ่น LB196A, LB15DA และ LB155A(รุ่นอายุ 4.8 ปี, 1.3 ปี และ 0.7 ปี ตามลำดับ) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 6,953 ล้านบาท หรือคิดเป็น 61% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้านหุ้นกู้เอกชนรุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรกในวันนี้ คือ

1. หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิและไม่มีหลักประกันของบริษัท เหมราชพัฒนาที่ดิน จำกัด(มหาชน)(HEMRAJ244A) มูลค่า 412.7 ล้านบาท

2. หุ้นกู้มีประกันของบริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง(ประเทศไทย) จำกัด(TLT188B) มูลค่า 303.2 ล้านบาท

3. หุ้นกู้มีประกันของบริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง(ประเทศไทย) จำกัด (TLT14DA) มูลค่า 247.5 ล้านบาท

โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 963.5 ล้านบาท หรือคิดเป็น 40.0% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมดในวันนี้

ทางด้านประเภทของนักลงทุน ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุดเป็น 2 อันดับแรกในวันนี้ คือ

1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 21,568 ล้านบาท

2. กลุ่มสถาบันการเงินที่ไม่มีใบอนุญาตเพื่อค้าตราสารหนี้ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 2,567 ล้านบาท

ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ มียอดขายสุทธิ เท่ากับ -1,823 ล้านบาท

ผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 3 เดือน ปิดที่ 2.01% ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเมื่อวาน และผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี ปิดที่ 3.07% ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 0.03%

>>ภาพรวมของตลาดในวันนี้

Yield Curve ปรับเพิ่มขึ้นในตราสารอายุ 6 เดือนขึ้นไป ประมาณ 1-2 bps. ในทิศทางเดียวกับ US Treasury นักลงทุนยังคงติดตามตัวเลขเศรษฐกิจ ซึ่งล่าสุดตัวเลข PMI ภาคการผลิตเดือน ส.ค. ของจีนปรับลงมาอยู่ที่ระดับ 51.1 จาก 51.7 ในเดือน ก.ค. และ PMI ภาคการผลิตของยูโรโซนปรับลงมาอยู่ที่ 50.7 จากเดือน ก.ค. ที่ 51.8 แสดงถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจ โดยตลาดจับตาการประชุมธนาคารกลางยุโรป(ECB) 4 ก.ย. นี้ว่าจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่ๆ ออกมาหรือไม่ สำหรับนักลงทุนต่างชาติวันนี้ มียอดขายสุทธิ(NET SELL) เท่ากับ 1,823 ล้านบาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ