ซีทีเอช ตั้งเป้าขายกล่องรับสัญญาณโทรทัศน์ 5,000-10,000 กล่อง/เดือน รวมทั้งสมัครสมาชิกเคเบิ้ลทีวีของซีทีเอชผ่านช่องทางจำหน่ายของ SIS ขณะที่ SIS มองเห็นโอกาสในความร่วมมือครั้งนี้ที่จะช่วยให้มีสินค้าจำหน่ายมากขึ้น
"บริษัทยังคงเติบโตไปกับการเพิ่มสินค้า ขยายฐานลูกค้า ปัจจุบันมีช่องทางจำหน่ายรวมทุกช่องทางราว 4,000 กว่าราย ก็จะเพิ่มขึ้นไปอีก และการร่วมมือกับซีทีเอช เราก็จะได้ฐานลูกค้าจากการติดตั้งจานหรือเอากล่องไปขาย เราก็จะพยายามขายสินค้าอื่นๆ และบริการใหม่ๆของเราผ่านลูกค้าเหล่านี้ ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายของซีทีเอชเพิ่มเติมด้วย"นายสมชัย กล่าว
ขณะที่นายเชิดศักดิ์ กู้เกียรตินันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ซีทีเอช กล่าวว่า ภายในสิ้นปี 57 บริษัทยังคงเดินหน้าจับมือพันธมิตรทางธุรกิจในการขยายช่องทางการรับชมคอนเท้นต์พรีเมี่ยมของซีทีเอช ซึ่ง SIS เป็นบริษัทที่อยู่ในธุรกิจ IT Distribution ที่มีศักยภาพ, มีประสิทธิภาพในการจัดจำหน่ายสินค้า ประกอบกับ ซีทีเอชมีสินค้าที่ดีที่มีความน่าสนใจ และอยู่ในตลาดที่มีการเจริญเติบโตสูง เราจึงจึงใช้จุดแข็งที่มีอยู่ของทั้งสองบริษัทมาผนวกเข้าด้วยกัน เชื่อว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีและทำให้ทุกฝ่ายได้รับประโยชน์ในด้านธุรกิจที่จะขยายตัวมากขึ้น
นายสมชัย ยังเปิดเผยอีกว่า ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรอีก 1 รายเพื่อขยายธุรกิจต่อธุรกิจไอทีและเทคโนโลยี แต่ความร่วมมือครั้งนี้อาจจะเป็นทั้งด้านการจำหน่ายสินค้าและการลงทุนร่วมกัน โดยจะพิจารณาความเหมาะสมอีกครั้ง ซึ่งอาจมีการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนใหม่ คาดว่าจะได้ข้อสรุปปลายไตรมาส 3/57 หรือต้นไตรมาส 4/57 นี้ โดยใช้เงินทุนหมุนเวียนของบริษัท ไม่จำเป็นต้องเพิ่มทุน
สำหรับผลประกอบการของ SIS ในปีนี้ว่าบริษัทมั่นใจว่ารายได้รวมในปีนี้ที่ 19,000-20,000 ล้านบาท สูงกว่าปีก่อนที่มีรายได้กว่า 18,000 ล้านบาท ถึงแม้ครึ่งปีแรกรายได้จะลดลงราว 10% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามการชะลอตัวของภาวะเศรษฐกิจในประเทศที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การเมือง แต่บริษัทเชื่อว่าแนวโน้มครึ่งหลังน่าจะดีขึ้น หลังจากช่วง 2-3 เดือนแรกของของไตรมาส 3/57 ยอดขายดีกว่างวดเดียวกันปีก่อน และดีกว่าไตรมาส 2/57 ที่ผ่านมา
"ความมั่นใจของลูกค้าที่กลับคืนมา ภาคธุรกิจกล้าลงทุนมากขึ้น จึงเริ่มสั่งซื้อสินค้าเพิ่มขึ้น และยิ่งขณะนี้มีรัฐบาลใหม่แล้วก็น่าจะทำให้ดีขึ้นอีก ครึ่งแรกทำยอดขายราว 9,000 กว่าล้านบาท ครึ่งหลังน่าจะดีกว่าแน่นอน"นายสมชัย กล่าว
ในแง่ของกำไรสุทธิปีนี้ บริษัทจะพยายามทำให้สูงกว่าปีก่อน ในทิศทางเดียวกับยอดขาย เนื่องจากปีนี้ไม่มีปัญหาเรื่องสต็อกสินค้าแล้ว หลังจากบริษัทสามารถบริหารสต็อกสินค้าได้เหมาะสมกับยอดขาย และโครงการภาครัฐเริ่มดำเนินการต่อไปได้ ก็จะช่วยผลักให้ยอดขายและกำไรเติบโตไปด้วยกัน
"ปีนี้ถ้าครึ่งหลังทุกอย่างราบรื่นรายได้รวมน่าจะทะลุ 2 หมื่นล้านบาทได้ ซึ่งอุตสาหกรรมไอทีปีนี้จากเดิมคาดไม่โต แต่ตอนนี้กลับมามองว่าจะโตได้ 5-10% คนกับมาซื้อพีซีกับโน้ตบุ๊กมากขึ้น"นายสมชัย กล่าว