(เพิ่มเติม) AIRA ร่วมทุนญี่ปุ่นรุกสินเชื่อบุคคลภายในปีนี้,แนวโน้มกำไรสูงกว่าปีก่อน

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday September 5, 2014 14:30 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางนลินี งามเศรษฐมาศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ไอร่า แคปปิตอล(AIRA)ว่า บริษัทเซ็นสัญญาร่วมมือทางธุรกิจกับ AIFUL CORPORATION ซึ่งเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ในธุรกิจการเงินที่มีขนาดใหญ่อันดับ 1 ใน 4 ของผู้ประกอบการด้านสินเชื่อส่วนบุคคลที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่นที่มีการดำเนินธุรกิจมายาวนานกว่า 47 ปี และมีสาขาที่ให้บริการครอบคลุมทั่วประเทศญี่ปุ่น มากกว่า 750 สาขา

ทั้งนี้ AIFUL CORPORATION เป็นบริษัทจดทะเบียนใน Tokyo Stock Exchange ตั้งแต่ปี 2000โดยมี Market Cap ณ วันที่ 4 กันยายน 2557 จำนวน 224,068 ล้านเยน หรือ 67,220 ล้านบาท การขยายธุรกิจของ AIFUL CORPORATION ในครั้งนี้ ถือเป็นการขยายการลงทุนออกนอกประเทศครั้งแรก และเป็นการบุกตลาดสินเชื่อส่วนบุคคลในประเทศไทย โดยจะมีการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนขึ้นภายในปีนี้

การร่วมลงทุนกับ AIFUL CORPORATION ถือเป็นหนึ่งในแผนธุรกิจที่จะนำพาบริษัทฯ ก้าวขึ้นเป็นผู้ประกอบการธุรกิจทางการเงินที่ไม่ใช่ธนาคารพาณิชย์ หรือ Non-bank ติดอันดับ 1 ใน 5 ของประเทศได้อย่างรวดเร็ว

นางนลินี กล่าวว่า ปัจจุบันทั้งสองฝ่ายอยู่ระหว่างการสรุปข้อตกลงด้านรายละเอียดทั้งด้านทุนจดทะเบียน สัดส่วนการถือหุ้น รวมถึงเงินลงทุนในธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคล โดยคาดว่าจะมีการเงินลงทุนค่อนข้างสูง เนื่องจาก AIFUL เป็นบริษัทฯขนาดใหญ่จากญี่ปุ่นที่ต้องการจะบุกธุรกิจสินเชื่อในไทย และตั้งเป้าที่จะติด 1 ใน 5 ของธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลที่เป็น non-bank ในประเทศไทย ด้านนายไพโรจน์ เหลืองเถลิงพงษ์ กรรมการฝ่ายการลงทุน AIRA เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างเจรจาร่วมทุนและซื้อกิจการ อีก 3 ดีล ซึ่งอยู่ในกลุ่มธุรกิจการเงิน อาทิ ธุรกิจสินเชื่อ และธุรกิจประกัน รวมถึงธุรกิจบริการสินทรัพย์ คาดว่าจะสามารถสรุปได้ 1 ดีลภายในปลายปีนี้

บริษัทคาดว่ากำไรสุทธิของธุรกิจหลักทรัพย์ภายใต้ บล.ไอร่า ในปีนี้จะทำได้มากกว่าปีก่อนที่ทำได้ 90 ล้านบาท หลังจากสถานการณ์ทางการเมืองคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น ส่งผลให้ปริมาณการซื้อขายขอตลาดหลักทรัพย์เริ่มปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา โดยปีนี้บริษัทตั้งเป้าส่วนแบ่งตลาดนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ไว้ที่ 1.3-1.5% จากปีก่อนอยู่ที่ง 1% โดยฐานลูกค้าทั้งหมดราว 2-3 หมื่นบัญชี และมีกลุ่มลูกค้าที่เป็น Hi Network ทั้งหมดราว 50% ของมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยที่ราว 1,500 ล้านบาท/วัน สำหรับกำไรสุทธุของกลุ่มธุรกิจของ AIRA ก็มีแนวโน้มดีขึ้น เนื่องจากการเติบโตของกำไรสุทธิในธุรกิจหลักทรัพย์มีแนวโน้มสูงกว่าปีก่อน และกำไรสุทธิจากธุรกิจหลักทรัพย์มีสัดส่วนมากกว่า 50% ของกำไรสุทธิทั้งหมด นอกจากนี ธุรกิจวาณิชธนกิจยังมีดีลในมืออีก 3 ดีล เตรียมจะยื่นไฟลิ่งภายปีนี้ และในปี 58 ทั้งหมดจะอยู่ในตลาด mai ทั้งหมด แบ่งเป็นธุรกิจ ทำกระดาษ สื่อสิ่งพิมพ์ และ engineer นางนลินี ยังกล่าวอีกว่า กล่าวว่า ภายหลังการจั้ดตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ช่วยให้ภาคธุรกิจมีความเชื่อมั่นมากขึ้น ซึ่งเชื่อว่าอัตราการขยายตัวของเศษฐกิจไทย(GDP) ปีนี้จะเติบโตได้ 2.5% เนื่องจากในช่วงไตรมาส 4/57 จะมีการลงทุนจากภาครัฐฯที่เป็นปัจจัยช่วยสนับสนุนพื้นฐานของเศรษฐกิจไทยให้มีความแข็งแกร่งมากขึ้น ส่วนในด้านการเงินของประเทศก็กลับมามีสภาพคล่องดีขึ้นจากอัตราดอกเบี้ยที่ยังอยู่ในระดับทรงตัว หากยกเลิกกฎอัยการศึกก็จะมีส่วนช่วยให้ความเชื่อมั่นดีขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม มองว่าจะไม่ได้เพิ่มจากปัจจุบันมากนัก เพราะต่างชาติที่ติดต่อทำธุจกิจกับทางบริษัทเข้าใจสถานการณ์การเมืองของไทยมากขึ้นแล้ว รวมถึงมีความมั่นใจต่อทิศทางการเติบโตของเศษฐกิจไทยในอนาคตที่มีความชัดเจนมากขึ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ