(เพิ่มเติม) บอร์ด กสท.ล่มไม่ครบ 5 คน ยังไร้ทางออกจัดการปัญหาช่อง 3 อนาล็อค

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday September 5, 2014 18:25 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

การประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) ไม่สามารถดำเนินการได้ตามที่ได้นัดหมายไว้ เนื่องจากมีกรรมการเข้าร่วมประชุมเพียง 3 คน จาก 5 คน ทำให้ยังไร้ทางออกในกรณีการออกอากาศของสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ระบบอนาล็อคผ่านเคเบิ้ลทีวีและดาวเทียม ซึ่งขัดต่อมติ กสท.

ทั้งนี้ การประชุมคณะกรรมการ กสท.ถูกยกเลิกไปก่อนเวลานัดประชุม 16.00 น. เนื่องจากพ.อ.นที ศุกลรัตน์ ประธาน กสท. และพ.ต.อ.ทวีศักดิ์ งามสง่า กรรมการ กสท.แจ้งว่าไม่สามารถเข้าร่วมประชุมได้ แม้ว่าจะมีกรรมการ 3 คนเข้าประชุม ซึ่งถือว่าครบองค์ประชุม ได้แก่ น.ส.สุภิญญา กลางณรงค์, พล.ท. พีระพงษ์ มานะกิจ และ นายธวัชชัย จิตรภาษ์นันท์

กรรมการ กสท.ทั้ง 3 คน ออกมาให้ความเห็นร่วมกัน โดยพร้อมแสดงจุดยืนที่จะให้มีมติ กสท.ให้ออกคำสั่งทางปกครองแก่ผู้ประกอบการโครงข่ายดาวเทียมและเคเบิลทีวีให้ยุติการออกอากาศของช่อง 3 อนาล็อก โดย น.ส.สุภิญญา ให้ความเห็นส่วนตัวว่าควรให้เวลา 15 วัน เพื่อให้ผู้ประกอบการโครงข่ายแจ้งประชาชนว่าจะไม่มีการออกอากาศช่อง 3 อนาล็อกผ่านจานดาวเทียมและเคเบิลทีวี

กรรมการ กสท.ทั้ง 3 คนเห็นว่าควรจะทำเรื่องให้ชัดเจนโดยเร็ว เพราะในเดือน ต.ค.นี้ก็ถึงกำหนดแจกคูปองส่วนลดซื้อกล่อง Set Top Box แล้ว ไม่เช่นนั้นจะเกิดความเสี่ยงกับธุรกิจทีวีดิจิตอล

น.ส.สุพิญญา กล่าวว่า บริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเมนท์ ผู้บริหารสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 มี 2 ทางเลือก คือ ช่อง 3 ออกอากาศคู่ขนานกับช่องทีวีดิจิตอล หรือ ช่อง 3 ขอใบอนุญาตออกอากาศดาวเทียมหรือเคเบิลทีวี แต่จะต้องกำหนดเวลาโฆษณา 6 นาที ลดลงครึ่งหนึ่งของช่องฟรีทีวีเดิม

ด้านนายธวัชชัย กล่าวว่า ที่ผ่านมาช่อง 3 ไม่เคยเข้ามาเจรจาหรือยื่นข้อเสนอใดๆ แก่ กสท. ทั้งที่ให้เวลามาแล้ว 100 วัน จึงจำเป็นต้องออกมา Take action ซึ่ง กสท.ยืนยันว่าเห็นใจผู้ประกอบการ หากเดินไปด้วยกันด้วยดีก็จะไม่มีความเสียหาย พร้อมมองว่าช่อง 3 มีทางออกที่ต้องทำให้ถูกกฎหมาย หรือหากมาเจรจากันเพื่อหาทางออก หรือยื่นข้อเสนอใด ๆ ก็พร้อมจะพิจารณา อย่างไรก็ดี กสท.ต้องมีความชัดเจนไม่เช่นนั้นจะเกิดความเสียหายต่อธุรกิจทีวีดิจิตอลทั้งระบบ

"เราอยากให้มีความชัดเจน เพราะทุกวันนี้สังคมดูว่าเรื่องนี้อึมครึ้ม เรามีความพยายามสรุปเราต้องมีความชัดเจนเราต้องTake Action ขณะนี้ช่อง 3 ยังไม่ได้ยื่น...ถ้าไม่มีทางออกเราก็ต้องใช้ดาบ"นายธวัชชัยกล่าว

พล.ท.พีระพงษ์ กล่าวว่า ในวันที่ 8 ก.ย.ได้มีการนัดประชุม กสท.อีกครั้ง และจะมีการพิจารณาวาระที่จะออกคำสั่งทางปกครองกับผู้ประกอบการโครงข่าย โดยเห็นว่าเรื่องสำคัญเช่นนี้จึงต้องการให้กรรมการ กสท.อยู่ครบ ดังนั้น ช่วง 2 วันหรือเสาร์อาทิตย์นี้ ถ้าช่อง 3 ไม่ต้องการให้เกิดจอดำเชื่อว่าจะเข้ามามาหารือเพื่อประโยชน์ช่อง 3 เองเพราะช่อง 3 เป็นขวัญใจประชาชน และหากการออกคำสั่งปกครองกับผู้ประกอบการโครงข่ายดาวเทียมและเคเบิลทีวีจะทำให้ถูกฟ้องกสท.ก็พร้อมรับ เพราะเราชินอยู่แล้ว

ขณะที่ สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ออกแถลงการณ์ 2 ฉบับ ชี้แจงกรณีไม่ออกอากาศคู่ขนาน และ ไม่ขออนุญาตเป็น Pay TV มีเนื้อหาระบุว่า เหตุผลที่ไม่ออกอากาศคู่ขนาน เนื่องจากช่อง 3 โดยบริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด ไม่ได้เข้าร่วมประมูลใบอนุญาตทีวีดิจิตอลเนื่องจากติดเงื่อนไขสัญญาสัมปทานเดิม ช่อง 3 จึงไม่มีใบอนุญาตช่องรายการในระบบดิจิตอล ส่วนบริษัท บีอีซีมัลติมีเดีย จำกัด ซึ่งประมูลได้ช่องทีวีดิจิตอลมา 3 ช่อง ก็ไม่สามารถจะนำ"ช่อง 3"ไปออกอากาศคู่ขนานได้ เนื่องจากผิดกฎกติกาที่กำหนดให้ผู้ได้รับใบอนุญาตจะต้องดำเนินการด้วยตนเอง

หาก กสท.จะอนุญาตให้นำรายการของช่อง 3 ไปออกอากาศคู่ขนาน (Pass Through) สัญญาญ เนื้อหารายการและโฆษณาของช่อง 3 จะต้องไม่ถูกดัดแปลง แก้ไขใด ๆ ทั้งสิ้น ไม่เช่นนั้นจะก่อให้เกิดปัญหาแก่ช่อง 3 ในเรื่องลิขสิทธิ์รายการ จากเจ้าของลิขสิทธิ์ได้ และยังมีขั้นตอนที่ทั้ง บีอีซี มัลติมีเดีย และบางกอกเอนเตอร์เทนเม้นต์ ต้องไปดำเนินการระหว่างกันให้ถูกต้อง อีกทั้งยังต้องไปหารือทำความตกลงกับ กสท. ในเรื่องการขออนุญาต ค่าประมูล ค่าสัมปทาน ค่าธรรมเนียม และค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ให้ถูกต้องตามกฏและเป็นธรรมต่อไป

สำหรับเหตุผลที่ไขอนุญาตเป็น Pay TV นั้น ระบุว่า ช่อง 3 ไปร้องศาลว่ามติ กสท.ห้ามโครงข่ายดาวเทียมและเคเบิลนำสัญญาณช่อง 3 ไปออกอากาศนั้นเป็นมติที่ไม่ชอบ เรื่องนี้ยังอยู่ในกระบวนการพิจารณาของศาล ศาลยังไม่ได้ตัดสินว่าใครถูกใครผิด หากช่อง 3 ไปขออนุญาตเป็น Pay TV จะส่งผลให้ช่อง 3 แพ้คดี และก่อนที่ศาลจะตัดสินเรื่องนี้ หาก กสท.ด่วนใช้อำนาจบังคับใช้กฎหมาย ทำให้ช่อง 3 จอดำ ก็ขอให้ทราบว่าเป็นเรื่องที่ กสท.ตัดสินดำเนินการทั้ง ๆ ที่มีทางเลือกอื่น เช่น การขยายเวลาบังคับใช้มติ หรือรอคำสั่งศาลปกครอง เป็นต้น

แม้ช่อง 3 จะไปขออนุญาตเป็น Pay TV ตามที่ กสท.แนะนำ เพื่อให้โครงข่ายดาวเทียมและเคเบิลนำสัญญาณของช่อง 3 ไปออกอากาศได้นั้น เจ้าของลิขสิทธิ์รายการของช่อง 3 จะถือว่าเป็นธุรกิจใหม่ประเภท Pay TV จะต้องเสียค่าลิขสิทธิ์ใหม่ และค่าธรรมเนียมใหม่ทั้งหมด ไม่ว่าจะมีการดัดแปลง แก้ไขสัญญาณ เนื้อหารายการ หรือโฆษณา หรือไม่ก็ตาม จึงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ที่จะไปขอใบอนุญาตเป็น Pay TV


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ