"คาดรายได้น่าจะเพิ่มขึ้นในไตรมาส 3 -4 เนื่องจากในไตรมาส 2 มีงานบางส่วนเป็นการเตรียมงาน และบริษัทจะทยอยส่งมอบงานที่มากยิ่งขึ้นทั้งงานในบราซิลและออสเตรเลียในครึ่งหลัง ซึ่งรายได้ในครึ่งหลังก็จะมากกว่าครึ่งแรก จึงยังคงเป้ารายได้ปีนี้โต 15%"นางจันทร์จิรา กล่าว
ปัจจุบันมีงานในมือที่รอรับรู้รายได้ (backlog) ประมาณ 5,000 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้ปีนี้ประมาณ 50% ส่วนที่เหลือรับรู้ปี 58 ในจำนวน 5,000 ล้านบาท เป็นงานบราซิล 50% ออสเตรเลีย 50% ขณะเดียวกันบริษัทยังมีงานที่เตรียมเข้าประมูลภายในปีนี้อีก 6,900 ล้านบาท ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงที่จะได้รับงาน คาด 50% ได้แน่เพราะส่วนใหญ่เป็นงานในบราซิลและออสเตรเลียที่บริษัทเคยทำอยู่แล้ว โดยจะรู้ผลภายในสิ้นปีนี้
"จริงๆ เราหวังได้งาน 100% จากที่จะยื่นประมูล 6,900 ล้านบาท ซึ่งเป็นงานออสเตรเลีย 50% บราซิล 50% ที่บราซิลโอกาสได้ค่อนข้างสูงมาก แต่ 50% ได้แน่" น.ส.จันทร์จิรา กล่าว
ในส่วนของอัตรากำไรขั้นต้น (gross profit margin)ปีนี้อาจลดลง จากปีก่อนเฉลี่ยที่ 40% โดยครึ่งแรกอยู่ราว 25% เนื่องจากปีก่อนส่วนใหญ่ส่งมอบงานที่บริษัทรับตรงซึ่งมีมาร์จินสูง แต่ปีนี้ส่วนใหญ่เป็นการได้รับงานผ่านทาง EPC มาร์จินจะต่ำกว่า อย่างไรก็ตาม บริษัทจะพยายามบริหารจัดการให้ดีเพื่อรักษามาร์จิน เพราะครึ่งหลังงานที่จะส่งมอบมีงานประเภทรับตรงที่ยังเหลืออยู่ด้วย ส่วนจะทำให้มาร์จินเท่าเดิมหรือเปล่านั้นยังต้องรอดู
นอกจากนี้ บริษัทคาดจะได้รับงานจากการลงทุนต่อเนื่องของ Petrobras จากประเทศบราซิล ซึ่งมีความจำเป็นต้องผลิตเรือปิโตรเลียมขนาดใหญ่ (FPSO) เพื่อรองรับความต้องการใช้น้ำมันในบราซิล ขณะนี้บริษัทได้มีส่วนร่วมในการผลิตชิ้นส่วน FPSO กับ Petrobras แล้ว 2 ลำ ซึ่งงานจะจบกลางปีหน้า และปีหน้าเราก็จะยื่นประมูลเพิ่มอีก 4 ลำ ซึ่งPetrobras จะมีการลงทุนเพิ่มทุกปี
อีกทั้ง การที่บริษัทได้เข้าทำสัญญาซื้อขายหุ้นของบริษัท Aus-Com ในออสเตรเลีย 30% จะทำให้เป็นที่รู้จักในออสเตรเลียมากขึ้น และมีโอกาสได้งานในอุตฯเหมืองมากขึ้น