บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง(ประเทศไทย)ระบุในบทวิเคราะห์นแนะ"ซื้อ"ลงทุนระยะยาว หุ้น บมจ.รถไฟฟ้ากรุงเทพ(BMCL) คาดผลประกอบการพลิกเป็นกำไรปี 2559 เร็วกว่าที่ตลาดฯและที่เคยคาดไว้ 1 ปี และสิ่งสำคัญที่ค้นพบในวันนี้ที่จะมีผลต่อมูลค่าในระยะยาวก็คือพฤติกรรมของผู้โดยสารที่กำลังจะเปลี่ยนไป ซึ่งจะสะท้อนให้เห็นผ่านระยะทางการใช้บริการ/ เที่ยว ที่จะยาวขึ้นเป็น 5 สถานี/ เที่ยว จากปัจจุบัน 4 สถานี/ เที่ยว ซึ่งประเด็นนี้เมื่อรวมกับการปรับค่าตั๋วที่เพิ่มขึ้นนี้ และ WACC ที่จะลดลงจากผลของการเจรจาอัตราดอกเบี้ยกับเจ้าหนี้ ทำให้ได้ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 2.42 บาท/หุ้น
ทั้งนี้ ได้ปรับประมาณการขึ้นจากผลของการปรับขึ้นค่าตั๋วโดยสารจริงที่มากกว่าคาด 5.3% และเมื่อคูณด้วยจำนวนผู้โดยสารที่เติบโตแบบก้าวกระโดด จะส่งผลอย่างมีนัยยะต่อรายได้ตั้งแต่ปี 2558 เป็นต้นไป ขณะที่ฐานะทางการเงินที่แข็งแรงขึ้น บน EBITDA ที่หนาแน่นระดับ 604 ล้านบาท/ ปี เรามองว่ากระบวนการเจรจาต่อรองอัตราดอกเบี้ยจ่ายกับเจ้าหนี้สถาบันการเงิน ซึ่งอยู่สถานะผู้ถือหุ้น จะดำเนินไปได้ด้วยดี โดยคาดว่าอัตราดอกเบี้ยจะลดลงได้อย่างน้อย 50 bps หรือราว 85 ล้านบาท/ ปี
นอกจากนี้ ยังคงรอข้อสรุประหว่าง รฟม. กับ คณะกรรมการมาตรา 13 เกี่ยวกับวิธีในการที่ BMCL จะเข้าไปมีส่วนร่วมในรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ซึ่งหากสุดท้ายลงเอยด้วยระบบเจรจา ก็จะทำให้ BMCL สามารถรับรู้รายได้จากการรับจ้างเดินรถได้เร็วขึ้น 6 เดือน ขณะที่การให้บริการบนสายสีน้ำเงินเดิม ก็จะได้ประโยชน์ทางอ้อมจากจำนวนผู้โดยสารที่ไหลเข้าสู่ระบบที่ BMCL มีรายได้จากการเก็บค่าตั๋วโดยสาร (PPP Net cost) รวมไปถึง การสร้างรายได้ที่มากขึ้นของ BMN อีกด้วย