ในปีนี้บริษัทได้ปรับเป้ารายได้เพิ่มขึ้นเป็น 1.9 พันล้านบาท จากเดิมคาดว่าจะมีรายได้ราว 1.8 พันล้านบาท หลังจากครึ่งปีแรกทำได้แล้ว 964.84 ล้านบาท และคำสั่งซื้อใหม่จากลูกค้ายังเข้ามาอย่างต่อเนื่องทั้งจากลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่ พร้อมกันนั้น บริษัทยังคาดว่ากำไรสุทธิปีนี้จะสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ เนื่องจาบริษัทได้ปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตอย่างต่อเนื่องเพื่อลดต้นทุน ส่งผลให้อัตรากำไรสุทธิเพิ่มสูงขึ้นมาที่ 11-12% จากปีก่อนอยู่ที่ 9.2%
"ช่วงที่ผ่านมายอดขายของเราเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้งจากลูกค้าเก่าและลูกค้าใหม่ เนื่องจากลูกค้าของเราได้มีการทำกิจกรรมส่งเสริมการขายทำให้มีความต้องการสินค้ามากขึ้น ในขณะเดียวกันเรามีการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตที่ทำให้อัตรากำไรสุทธิสูงขึ้น ซึ่งทั้งรายได้ที่สูงขึ้น และอัตรากำไรสุทธิที่สูงขึ้น ช่วยให้ปีนี้เราคงจะมีอัตรากำไรสุทธิสูงขึ้นทำสถิติใหม่ได้"นายวิรัช กล่าว
นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนขยายฐานลูกค้าใหม่ในกลุ่มประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) เพิ่มเติม เพื่อรองรับการเปิด AEC ในปี 58 โดยอยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรท้องถิ่นในหลายๆประเทศ จากปัจจุบันที่ได้วางจำหน่ายสินค้าของบริษัทในเวียดนาม สิงคโปร์ และ มาเลเซีย ซึ่งบริษัทตั้งเป้าจะเพิ่มสัดส่วนรายได้จากภูมิภาคเอเชียเป็น 20% ในปี 61 จากปัจจุบันอยู่ที่ 15%
"เราก็พยายามเปิดตลาดใหม่ๆ หาลูกค้าใหม่ๆ เพิ่มอย่างต่อเนื่อง เพื่อที่จะขยายธุรกิจของบริษัทฯ ซึ่งเราก็มองว่าการเปิด AEC จะเป็นประโยชน์ต่อเรา เราจึงมีการเข้าไปหาพันธมิตรท้องถิ่นในหลายๆประเทศเพื่อที่จะขยายตลาดแต่ปัจจุบันเรายังบอกไม่ได้ว่าจะไปประเทศไหนบ้าง เพราะอยู่ระหว่างเจรจาแต่ปีหน้าเราคงจะเห็นความชัดเจนมากขึ้น"นายวิรัช กล่าว