RWI เสนอขายหุ้น IPO จำนวน 150 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท ในราคาเสนอขาย 1.60 บาทต่อหุ้น ซึ่งราคา IPO มีอัตราส่วนราคาต่อกำไรต่อหุ้น (P/E Ratio) ที่ประมาณ 8.58 เท่า เมื่อเปรียบเทียบกับค่า P/E ของตลาดหลักทรัพย์ mai ในช่วง 1 ปีที่ 33.18 เท่า
ทั้งนี้ บริษัทคาดว่ารายได้ปี 58 จะเติบโตราว 10% จากปีนี้ที่คาดว่าจะมีรายได้ราว 1 พันล้านบาท เนื่องจากช่วงที่ผ่านมามีคำสั่งซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มก่อสร้าง ซึ่งเป็นหลุ่มที่บริษัทมีสัดส่วนรายได้สูงถึง 90-95% ของรายได้ทั้งหมด และมองว่าบริษัทจะได้รับปัจจัยบวกจากโครงการลงทุนในด้านต่าง ๆ ของภาครัฐกำลังจะทยอยออกมาที่คาดว่าจะเริ่มเบิกจ่ายงบประมาณปี 57 ตั้งแต่เดือน ต.ค.57 นี้ และคาดว่าภาคอุตสาหกรรมจะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องด้วยเช่นกัน
นอกจากนั้น บริษัทยังได้มองไปถึงปี 59 โดยตั้งเป้ารายได้จะเติบโตจากปี 58 ไม่ต่ำกว่า 20% เนื่องจาก บริษัทจะนำเงินที่ได้จาการขายหุ้น IPO ราว 240 ล้านบาท มาใช้ลงทุนขยายกำลังการผลิตเพิ่มเป็น 6 พันตัน/เดือนในช่วงปลายปี 58 และจะสามารถใช้กำลังการผลิตได้เต็มที่ในปี 59 จากปัจจุบันที่มีกำลังการผลิตราว 3 พันตัน/เดือน และเงินส่วนที่เหลือจะนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการซื้อวัตถุดิบเพื่อรองรับคำสั่งซื้อในอนาคต
"รายได้ของเราจะเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง จากกำลังการผลิตที่จะเพิ่มขึ้นประกอบกับการที่ภาครัฐฯจะทยอยลงทุนโครงการโครงสร้างพื้นฐานต่างๆออกมาอย่างต่อเนื่องจะส่งผลให้ความต้องการใช้เหล็กเพิ่มขึ้น ซึ่งเราก็มีแผนที่จะขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับการเติบโตของความต้องการใช้เหล็กที่จะเกิดขึ้น ซึ่งหลังจากกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นไปบริษัทฯยังมองแนวทางในการขยายตลาดไปต่างประเทศด้วย เพื่อที่จะเป็นการขยายตลาดรองรับกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นด้วย"รศ.ดร.เชนินทร์ เชน กล่าว
นายเชนินทร์ กล่าวว่า บริษัทคาดว่าจะสามารถรักษาอัตรากำไรสุทธิปีนี้ที่ 12.7% ระดับเดียวกับปีก่อน ภายใต้นโยบายของบริษัทที่จะรักษาอัตรากำไรสุทธิไว้ไม่ต่ำกว่า 10% เนื่องจากบริษัทสามารถบริหารจัดการด้านวัตถุดิบได้ดี ทำให้มีส่วนต่างกำไรเข้ามาเพิ่มขึ้น ประกอบกับ บริษัทฯได้เน้นขายสินค้าเหล็กให้กับผู้ประกอบการรายเล็กที่สามารถทำกำไรได้สูงกว่าการขายให้กับโครงการขนาดใหญ่