ส่วนรายได้ปีนี้คาดว่าจะได้ราว 400 ล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าปีก่อนที่มีรายได้ 417.47 ล้านบาท จากผลกระทบการเมืองในช่วงครึ่งปีแรก ส่งผลให้อุตสาหกรรมยานยนต์มีการชะลอตัวลง ขณะที่บริษัทฯยังมีงานในมือ (Backlog) ที่จะรับรู้ในช่วงที่เหลือของปีนี้ราว 100 ล้านบาท
ทั้งนี้ คาดว่าในปี 58 บริษัทฯจะสามารถพลิกกลับมามีกำไรได้ และล้างขาดทุนสะสมที่มีอยู่ 7.9 ล้านบาทได้หมด ขณะที่รายได้น่าจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% จากปี 57 โดยบริษัทฯมีงานในมือรองรับในปีหน้าแล้วจำนวน 500 ล้านบาท ซึ่งเป็นงานหล่ออลูมิเนียมเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมยานยนต์ที่มีมาร์จิ้นสูง โดยคาดว่าอัตรากำไรสุทธิน่าจะมากกว่า 5% ขึ้นไป ขณะเดียวกันยังมีโครงการอีโคคาร์เฟส 2 เข้ามา ที่จะส่งผลให้อุตสาหกรรมทั้งระบบฟื้นตัวดีขึ้นอย่างมาก ซึ่งสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) คาดว่าจะมียอดการผลิตรถยนต์ทั้งสิ้น 2.7 ล้านคัน จากปีนี้อยู่ที่ 2.2 ล้านคัน
"ปีนี้คาดว่าจะขาดทุนน้อยลง จากเราสามารถควบคุมการผลิตได้ดี และงานมีมาร์จิ้นดี ขณะที่รายได้น่าจะต่ำกว่าปีก่อนด้วย เนื่องจากครึ่งปีแรกได้รับผลกระทบจากอุตสาหกรรมยานยนต์ แต่มองว่าครึ่งปีหลังจะดีกว่าครึ่งปีแรกได้ จากที่ทุกอย่างเริ่มสงบแล้ว ส่วนปี 58 คาดว่าจะสามารถพลิกกลับมามีกำไรได้ และล้างขาดทุนสะสมที่มีอยู่ได้หมด จากอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ฟื้นตัวดีขึ้น ซึ่งส.อ.ท.ก็คาดว่ายอดการผลิตรถยนต์น่าจะอยู่ที่ 2.7 ล้านคันได้ เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมาย 3 ปี ที่ในปี 60 จะสามารถผลิตได้ 3 ล้านคัน" นายรัฐวัฒน์กล่าว
นอกจากนี้หากอุตสาหกรรมฟื้นตัวขึ้นและส่งผลต่อกำลังการผลิตของบริษัทฯเพิ่มขึ้นมากกว่า 80% จากปัจจุบันอยู่ที่ 60% บริษัทฯมีการเตรียมงบลงทุนราว 50 ล้านบาท เพื่อใช้ลงทุนเครื่องจักรใหม่ เพื่อขยายกำลังการผลิตและรองรับการผลิตที่เพิ่มขึ้น
บริษัทฯเตรียมรุกขยายธุรกิจไปยังภูมิภาคอาเซียน โดยมองที่ประเทศอินโดนีเซีย เพื่อส่งออกชิ้นส่วนยานยนต์ คาดว่าจะเห็นความชัดเจนได้ใน 1-2 ปีนี้ ซึ่งจะช่วยเพิ่มยอดขายให้แก่บริษัทฯ