"ภาพรวมตลาดหุ้นไทยในเดือนก.ย.อาจชะลอตัว เป็นช่วงที่ปลอดปัจจัยหนุน หลังจากที่บริษัทจดทะเบียนประกาศผลประกอบการออกมาแล้ว ขณะที่ปัจจัยทางการเมืองก็ไม่มีอะไรใหม่ เข้ามาหนุน อย่างไรก็ตาม ปัจจัยเสี่ยงที่กดดันการลงทุนที่มีน้ำหนักในเดือนก.ย. คือ สถานการณ์ต่างประเทศ โดยเฉพาะประเด็นความขัดแย้งในยูเครน และจำเป็นต้องติดตามท่าทีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ว่าท้ายที่สุด เฟดจะกำหนดแนวทางอย่างไร"นายรณกฤต กล่าว
นอกจากนี้ ยังจำเป็นต้องติดตามกระแสเงินทุนเคลื่อนย้าย ซึ่งถือเป็นตัวแปรสำคัญที่ผลักดัน SET Index ในช่วงที่ผ่านมา โดยนักลงทันต่างชาติยังมีการสลับซื้อและขายในตลาดหุ้นไทยแสดงให้เห็นถึงยังไม่มั่นใจต่อการลงทุนนัก
ทั้งนี้ กรอบการเคลื่อนไหวดัชนีในเดือนก.ย. คาดแนวรับอยู่ที่ระดับ 1,500 จุด แนวต้านอยู่ที่ระดับ 1,572 จุด โดยแนะนำลงทุนในหุ้นที่ได้รับปัจจัยหนุนจากการลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ ของภาครัฐ ทั้งในส่วนของกลุ่มพลังงานไฟฟ้า กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง และกลุ่มไอซีที ซึ่งมีทั้งในส่วนของผู้ประกอบการ และผู้วางระบบไอซีที
สำหรับหุ้นกลุ่มพลังงาน แนะนำลงทุนในหุ้น บมจ.โซลาร์ตรอน (SOLAR) เนื่องจากได้รับปัจจัยหนุนกรณีที่รัฐบาลมีการส่งเสริมพลังงานทดแทน ซึ่ง SOLAR, DEMCO ถือเป็นผู้ผลิตแผงโซลาร์เซลรายใหญ่ มีโอกาสได้รับประมูลงานสูง หุ้นกลุ่มก่อสร้าง แนะนำลงทุน บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ (ITD) เพราะช่วงที่ผ่านมาราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยมาก แม้จะได้รับปัจจัยหนุนจากการลงทุนภาครัฐ และหุ้นกลุ่มไอซีที แนะนำถือ บมจ.อินทัช โฮลดิ้งส์ (INTUCH) เนื่องจากเป็นหุ้นที่มีอัตราการจ่ายปันผลสูง และหุ้นบมจ.เอ็ม เอฟ อี ซี (MFEC) ซึ่งได้รับประโยชน์จากการวางโครงข่ายการสื่อสารโทรคมนาคม รับกระแส 3G และ 4G