อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ช่วงไตรมาส 2 ที่ผ่านมายอดขายเริ่มปรับตัวดีขึ้น และคาดว่าไตรมาส 3 จะยังทรงตัวจากไตรมาส 2 ที่ผ่านมา หลังจากที่การเมืองเริ่มคลี่คลายลง ในขณะที่ไตรมาส 4 เชื่อว่าผลประกอบการจะดีที่สุดในปีนี้ เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซั่น ของทุกปีอยู่แล้ว ประกอบกับบริษัทฯได้ตั้งงบลงทุนไว้ 10 ล้านบาท เพื่อที่จะใช้ทำโฆษณาผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อผลักดันยอดขายด้วย
"ปีนี้เราปรับลดเป้ารายได้ลงมาเพราะเราได้รับผลกระทบจากการเมืองตั้งแต่ปลายปี 56 ที่ผ่านมา ซึ่งในช่วงต้นปีที่ผ่านมาเราได้อัดงบการตลาดแต่ก็ไม่ได้ช่วยให้ยอดขายเพิ่มขึ้น แต่หลังจากที่การเมืองเริ่มคลี่คลายเราจึงเชื่อว่าไตรมาส 4 คงจะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปีนี้ เราจึงตั้งงบโฆษณาไว้เพื่อรองรับการเปิดตัวสินค้าใหม่เพื่อที่จะผลักดันยอดขายในช่วงปลายปีนี้"นายเจน กล่าว
นอกจากนี้ บริษัทฯอยู่ระหว่างศึกษาเจรจาร่วมทุนกับพันธมิตรท้องถิ่นในพม่า เพื่อที่จะนำผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯเข้าไปจำหน่าย โดยคาดว่าจะเริ่มจำหน่ายได้ในปี 58 เป็นต้นไป โดยบริษัทฯคาดว่าหลังจากที่ยอดขายในประเทศปรับตัวดีขึ้น ประกอบการการขยายตลาดไปยังประเทศพม่าจะช่วยให้รายได้ของบริษัทฯเติบโตกลับได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ว่าจะมีการเติบโตเฉลี่ยปีละ 15-20%
"พันธมิตรพม่าของเราทำธุรกิจเกี่ยวกับอาหารเหมือนๆเรา แต่ช่วงนี้อาจจะช้าหน่อยสำหรับการนำสินค้าเข้าไปขาย เพราะเราต้องรอศึกษาเกี่ยวกับวัฒนธรรมของประเทศพม่าว่าเป็นอย่างไร และขออนุญาตจากองค์การอาหารและยาด้วย ซึ่งการขยายตลาดไปพม่า และภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศที่เริ่มดีขึ้นจะช่วยให้ยอดขายกลับมาสู่ภาวะปกติ จึงเชื่อว่ายอดขายจะมาเติบโตได้ 15-20% ต่อปี ตามเป้าหมาย"นายเจน กล่าว