"เชื่อว่าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี เนื่องจากสินค้ามีคุณภาพสูง ส่วนคุณสมบัติพิเศษของผลิตภัณฑ์แอลอีดีของบริษัทฯ คือ ประหยัดไฟ อายุการใช้งานนานถึง 10 ปี และเป็นอุปกรณ์ไม่มีไส้หลอด ดังนั้นหากมีการเปิด-ปิดสวิทซ์ไฟบ่อยครั้งจะไม่มีผลต่อการใช้งาน รวมทั้งความร้อนของหลอดไฟน้อยกว่ารุ่นอื่น"นายธีระชัย กล่าว
กฟผ.ได้กำหนดเงื่อนไขของผลิตภัณฑ์ ซึ่งบริษัทฯสามารถทำได้ตามเกณฑ์ เช่น เรื่องการประหยัดพลังงาน และประสิทธิภาพการใช้งาน เป็นต้น หลังจากนี้ กฟผ.จะช่วยโปรโมทผลิตภัณฑ์ให้ประชาชนเข้าใจและเลือกซื้ออุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีคุณภาพ รวมถึงรณรงค์ให้ช่วยกันประหยัดพลังงานมากขึ้น เชื่อว่าการร่วมมือครั้งนี้จะช่วยผลักดันยอดขายแอลอีดีให้เติบโตเพิ่มขึ้น 20-30% ขณะที่ยอดขายรวมในปีนี้จะขยายตัวประมาณ 10-15% จากปี 56 ที่ผ่านมามียอดขายประมาณ 450 ล้านบาท
ทั้งนี้ ตลาดหลอดไฟและอุปกรณ์ในช่วงเดือน ก.ย.-ธ.ค.ของปีเติบโตดีขึ้นมากกว่าช่วง8 เดือนที่ผ่านมา(ม.ค.-ส.ค.) หลังจากที่มีรัฐบาลชุดใหม่ทำให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่นต่อภาวะเศรษฐกิจในประเทศว่าจะฟื้นตัวส่งผลให้ประชาชนมีการจับจ่ายใช้สอยในการซื้อสินค้ามากขึ้น จากที่ก่อนหน้าในช่วงที่เกิดปัญหาทางการเมืองและเศรษฐกิจชะลอตัวทำให้ยอดขายลดลงมาก
แต่อย่างไรก็ตาม กระแสตลาดอนุรักษ์พลังงานมาแรงในช่วง 4-5 ปีข้างหน้า เป็นผลมาจากการใช้ไฟในประเทศที่มีแนวโน้มสัดส่วนเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นการออกผลิตภัณฑ์ที่ลดการใช้พลังงานจะช่วยประเทศทางอ้อม ส่วนตลาดส่งออกในปัจจุบันมีสัดส่วนเพียง 10% ที่เหลือ 90% จะทำตลาดในประเทศ คาดว่าหลังจากเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียในปี 58 จะทำให้การแข่งขันรุนแรง ซึ่งจะต้องยกระดับคุณภาพสินค้าให้ได้มาตรฐานมากกว่าการใช้ราคาในการทำตลาด