นายจุมพล เตชะไกรศรี ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บมจ.ที.กรุงไทยอุตสาหกรรม(TKT) เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่าปีนี้จะยังมีกำไร แม้ว่าจะปรับเป้าหมายรายได้ลง เป็นหดตัว 17-22% จากปีก่อน ซึ่งเป็นอัตราหดตัวที่เพิ่มขึ้นจากเดิมที่คาดไว้ 10-20% ตามทิศทางภาพรวมอุตสาหกรรมรถยนต์ที่ชะลอตัวลงค่อนข้างมาก โดยคาดว่าปีนี้ยอดผลิตรถยนต์ในประเทศจะมีไม่ถึง 2 ล้านคัน
อย่างไรก็ตาม ช่วงครึ่งปีหลังบริษัทคาดว่ารายได้และกำไรสุทธิจะมากกว่าครึ่งปีแรกที่มีรายได้ 771 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 9 ล้านบาท เนื่องจากในช่วงครึ่งปีหลังบริษัทจะมีรายได้จากคำสั่งซื้อแม่พิมพ์ชิ้นส่วนยานยนต์เพิ่มสูงขึ้น จากที่ครึ่งปีแรกมีเพียง 40 กว่าล้านบาท โดยขณะนี้มีคำสั่งซื้อเข้ามาแล้วกว่า 100 ล้านบาท
"ปีนี้รายได้ของเราคงจะลดลงมากกว่าที่เราคิดไว้ก่อนหน้านี้ เพราะอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง และการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมยานยนต์ช้ากว่าที่เราคาดการไว้ แต่คำสั่งซื้อแม่พิมพ์ที่เพิ่มขึ้นจะทำให้รายได้และกำไรสูงขึ้นในครึ่งปีหลัง ประกอบกับการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต อาทิ การปรับปรุงเครื่องจักร พัฒนาบุคลากร ช่วยให้บริษัทฯยังมีกำไรได้ในปีนี้"นายจุมพล กล่าว
นายจุมพล กล่าวต่อว่า แนวโน้มรายได้ในปี 58 อาจจะลดลงจากปี 57 เล็กน้อย เนื่องจากการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ป้อนให้ค่ายโตโยต้าที่าเป็นลูกค้าหลักปรับลดลงมาก แม้ว่าจะมีคำสั่งซื้อจากค่ายฟอร์ดเข้ามาเพิ่ม แต่ก็ไม่สามารถชดเชยในส่วนที่ลดลงไปได้
"เราได้มีการปรับลดสัดส่วนการผลิตให้กับ TOYOTA และไปรับงานจาก FORD มากขึ้น แต่ยังไม่สามารถครอบครุมกับยอดผลิตที่ผลิตให้กับ TOYOTA ได้ แต่อย่างไรก็ตามการที่ได้รับงานจาก FORD ที่มีความหลากหลายมากขึ้นจะช่วยให้อนาคตบริษัทฯสามารถรับงานได้หลากหลายมากขึ้น แต่ในช่วงการปรับฐานสัดส่วนรายได้ของเรา ก็จะไม่ได้หยุดนิ่ง เราก็จะพลิกวิกฤตเป็นโอกาส โดยการปรับปรุงเครื่องจักร และปรุงปรุงบุคลากรให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น" นายจุมพล กล่าว