สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย(ThaiBMA)สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยวันนี้ มีมูลค่าการซื้อขายรวม 61,391 ล้านบาท โดยประเภทของตราสารที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุด คือ พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย โดยมีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 53,040 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 86.4% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวันนี้ ลำดับถัดมาคือ พันธบัตรรัฐบาล มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 3,939 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 6.4% ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 1,844 ล้านบาท หรือคิดเป็น 3.0% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด
สำหรับ พันธบัตรรัฐบาล รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุดในวันนี้คือ พันธบัตรรุ่น LB196A, LB236A และ LB15DA (รุ่นอายุ 4.8 ปี, 8.8 ปี และ 1.3 ปี ตามลำดับ) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 2,564 ล้านบาท หรือคิดเป็น 65% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้านหุ้นกู้เอกชนรุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. หุ้นกู้บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด(มหาชน)(CPALL193A) มูลค่า 205.3 ล้านบาท
2. หุ้นกู้บ้านปู(BANPU225A) มูลค่า 157.5 ล้านบาท
3. หุ้นกู้มีประกันของบริษัทโตโยต้า ลีสซิ่ง(ประเทศไทย)จำกัด(TLT16NA) มูลค่า 153.5 ล้านบาท
โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 516.2 ล้านบาท หรือคิดเป็น 28.0% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมดในวันนี้
ทางด้านประเภทของนักลงทุน ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุดเป็น 2 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 8,671 ล้านบาท
2. กลุ่มบริษัทจดทะเบียนในประเทศ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 706 ล้านบาท
ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ มียอดขายสุทธิ เท่ากับ -8,632 ล้านบาท
ผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 3 เดือน ปิดที่ 2.01% ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเมื่อวาน และผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี ปิดที่ 3.06% ปรับตัวลดลงจากเมื่อวาน -0.01%
Yield Curve ปรับลดลงในตราสารอายุ 5-10 ปี ประมาณ 1 bp. ในทิศทางเดียวกับ US Treasury โดยปัจจัยภายในประเทศ นักลงทุนจับตาการแถลงนโยบายของรัฐบาลวันพรุ่งนี้ ด้านปัจจัยต่างประเทศตลาดยังคงกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ Fed ซึ่งอาจส่งผลต่อภาวะเงินทุนต่างชาติให้ไหลออก (Fund flow) จากภูมิภาคเอเชียรวมทั้งไทย สำหรับนักลงทุนต่างชาติ วันนี้มียอดขายสุทธิ (NET SELL) เท่ากับ 8,632 ล้านบาท