นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ ผู้ช่วยกรรมการอำนวยการ สายงานวิจัยลูกค้าบุคคล บล.บัวหลวง(BLS) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งตัวในกรอบแคบ ๆ โดยหลัก ๆ นักลงทุนมีการเทรดรอผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) และการประชุมคณะกรรมการนโยบายทางการเงิน(กนง.)กลางสัปดาห์หน้า ขณะที่การแถลงนโยบายของรัฐบาลวันนี้ มองว่านักลงทุนส่วนใหญ่น่าจะรับข่าวเกี่ยวกับเนื้อหาหลักมาพอสมควรแล้ว
สำหรับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยตลาดอาเซียนยังไม่มีทิศทางที่ชัดเจนมากในระยะสั้นนี้
พร้อมให้แนวรับ 1,560-1,570 จุด ส่วนแนวต้าน 1,600 จุด
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :
- ตลาดหุ้นนิวยอร์คล่าสุด(11 ก.ย.)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,049.00 จุด ลดลง 19.71 จุด (-0.12%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,591.81 จุด เพิ่มขึ้น 5.29 จุด (+0.12%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,997.45 จุด เพิ่มขึ้น 1.76 จุด (+0.09%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 24.16 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 3.33 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 42.45 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 1.79 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 8.35 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 4.87 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 0.61 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(11 ก.ย.)1,580.87 จุด ลดลง 1.26 จุด(-0.08%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 163.61 ล้านบาท เมื่อวันที่ 11 ก.ย.57
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ต.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(11 ก.ย.)ที่ 92.83 ดอลลาร์/บาร์เรล
เพิ่มขึ้น 1.16 ดอลลาร์
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(11 ก.ย.)ที่ 7.06 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิดเช้านี้ที่ 32.20/21 เกาะติดปัจจัยจากนอกปท.
- คลังเดินหน้านโยบายรัฐบาล วางกรอบกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นถึงกลางปี 2558 ผ่านเบิกจ่ายงบค้างท่อ 3 แสนล้าน พร้อมชงโครงการจ้างงาน หวังอัดฉีดเงินเข้าระบบ ขณะเตรียมดันภาษีที่ดิน-สิ่งปลูกสร้าง-มรดก คาดเสร็จในรัฐบาล ขณะนักวิชาการหนุนเต็มที่ ชี้เป็นคุณูปการของประเทศ หากทำสำเร็จ แนะเพิ่มกฎหมายคุมวินัยการคลัง
- ตลาดหลักทรัพย์ หารือโบรกเกอร์ เตรียม นำมาตรการหยุดการซื้อขายทันทีในระยะเวลาหนึ่ง หวังคุมการซื้อขายหุ้นที่มีความถี่สูงและราคาร้อนแรงผิดปกติ หวังเพื่อเตือนสติรายย่อยให้หยุดคิด
- นายสันติ กีระนันทน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทริส เรทติ้ง เปิดเผยว่า แนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือของไทยในปี 2557 ต่อเนื่องไปจนถึงปีหน้ายังมีเสถียรภาพ หลังจากที่การเมืองนิ่งทำให้ขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศเพิ่มขึ้น
- นางจินตนา ชัยยวรรณาการ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมอยู่ระหว่างประเมินราคาสินค้าอุปโภคและบริโภคโดยรวมและมีความเป็นไปได้ที่จะต่ออายุมาตรการตรึงราคาสินค้าต่อเนื่องไปอีก 2-3 เดือน หรือให้สิ้นสุดเดือน ม.ค.-ก.พ. ปีหน้า โดยจะเสนอขอความเห็นชอบจาก พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.พาณิชย์ พิจารณาก่อน หากอนุมัติก็จะแจ้งต่อผู้ประกอบการต่อไป
- "แบงก์ชาติ" ย้ำแผนปล่อยกู้ "ซอฟท์โลน" ช่วยเอสเอ็มอีต้องคิดรอบคอบ หวั่นขัด พ.ร.บ. ธปท. ปี 2551 เผยที่ผ่านมาได้ให้ความช่วยเหลือเอสเอ็มอีต่อเนื่อง ทั้งการเสริมสภาพคล่อง ปรับโครงสร้างหนี้ ลดค่าธรรมเนียม ด้านผู้บริหารแบงก์กสิกรไทยมองยังไม่จำเป็นเพราะสถานการณ์เศรษฐกิจเริ่มดีขึ้น
- ศูนย์วิจัยทองคำคาดเฟดขึ้นดอกเบี้ย ธ.ค.ปีนี้ ส่งผลราคาทองคำร่วงเหลือบาทละ 1.7-1.8 หมื่นบาท ส่วนจะลงแรงกว่านี้หรือไม่ต้องรอลุ้นสหรัฐจะเข็นมาตรการอื่นออกมาเสริมหรือไม่ แนะนำนักลงทุนทยอยซื้อสะสมทำกำไรระยะยาว
*หุ้นเด่นวันนี้
- AP(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เซอร์ไพรส์จ่ายปันผลจากปกติจ่ายปีละ 1 ครั้ง จ่ายเป็นหุ้น 10:1 และเงินสด 0.02 บาท/หุ้น(XD 20 ต.ค.)คาดจะจ่ายอีก 0.27 บาท/หุ้นสำหรับกำไรปีนี้ รวมเป็นปันผลทั้งหมด 0.39 บาท/หุ้น คิดเป็น yield 5.2% สูงสุดในกลุ่ม ขณะที่ PE ปีหน้าต่ำเป็นอันดับ 2 ของกลุ่มที่ 8.9 เท่า ยอด Presales 8M14 ทำได้ 62% ของเป้าทั้งปี น่าจะทำตามเป้าได้ พร้อมให้เป้าหมายปีหน้า 8.45 บาท และ dilute เป็น 7.70 บาทหลังจ่ายหุ้นปันผล
- CK(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ซื้อเก็งกำไร"เป้า 31 บาท รัฐบาลแถลงนโยบายวันนี้ คาดเป็นบวกต่อหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้างจากแผนเศรษฐกิจเน้นลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ และได้อานิสงส์เชืงบวกกองทุน Trigger Fund กองใหม่วงเงิน 1.5 พันล้านบาทเน้นลงทุนหุ้นกลุ่มหลักทั้งธนาคารและรับเหมาฯ คาดเม็ดเงินใหม่จะเข้าสู่ตลาด 24-25 ก.ย.นอกจากนั้น การยื่นซองประมูลรถไฟฟ้าสายสีเขียวเหนือ(หมอชิต-สะพานใหม่คูคต) วงเงิน 2.9 หมื่นล้านบาท ในวันที่ 30 ก.ย.
- CK, BWG, CPF(เคทีบี)"เก็งกำไร"นโยบายการบริหารประเทศของรัฐบาลเป็นตัวหนุน ให้น้ำหนักลงทุนทางด้านโครงสร้างพื้นฐานของประเทศเพื่อการเติบโตทางเศรษฐกิจต่อเนื่องและยั่งยืน รวมทั้งการฟื้นตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศในช่วง 1 ปีข้างหน้าเป็นตัวหนุน พร้อมให้ราคาเป้าหมายเท่ากับ 29.08, 5.45 และ 33.80 บาท ตามลำดับ