ในปีนี้บริษัทกลับมาเดินเครื่องผลิตเชิงพาณิชย์ตามปกติ และมีอัตราใช้กำลังการผลิตที่ 80% ส่งผลให้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 4.5 ล้านตารางเมตรต่อปี จากที่ปีก่อนบริษัทมีกำลังการผลิตเพียง 3.5 ล้านตารางเมตร เนื่องจากได้หยุดการเดินบางสายการผลิต ประกอบกับ บริษัทได้ปรับเปลี่ยนพลังงานที่ใช้ในกระบวนการผลิตจากก๊าซ LPG เป็น BIO Mass ซึ่งช่วยลดต้นทุนด้านพลังงานลงถึง 4%
ขณะที่บริษัทเชื่อว่ารายได้ในปีนี้จะเติบโตได้ตามเป้าหมายราว 10-15% จากปีก่อนที่มีรายได้ 416 ล้านบาท เนื่องจากปัจจุบันแนวโน้มอสังหาริมทรัพย์เริ่มกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง หลังจากชะลอตัวไปมากในครึ่งปีแรก จึงคาดว่ายอดขายของบริษัทในครึ่งปีหลังจะดีกว่าครึ่งปีแรกตามไปด้วยเช่นกัน
"ปีนี้เรายังมีความมั่นใจว่ารายได้จะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ เพราะยอดขายของเราก็มีแนวโน้มที่ดีขึ้น หลังจากสถานการณ์การเมืองคลี่คลาย ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์เริ่มกลับมาลงทุน ทำให้มีความต้องการใช้อิฐมวลเบาเพิ่มขึ้น จึงเชื่อว่าปีนี้รายได้จะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ สำหรับกำไรสุทธิเองเราก็เชื่อว่าจะเติบโตกว่าเท่าตัวเมื่อเทียบกับปีก่อน จากการลดต้นทุนและปริมาณการผลิตที่เพิ่มสูงขึ้นด้วย"นายประทีป กล่าว
ด้านนายสมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปรแมเนจเม้นท์ จำกัด (APM) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน SMART เปิดเผยว่า SMART ได้เดินสายจัดโรดโชว์เพื่อให้ข้อมูลแก่นักลงทุนใน 11 จังหวัด ประกอบด้วย ระยอง ชลบุรี ภูเก็ต นครราชสีมา ขอนแก่น ราชบุรี นครสวรรค์ อุบลราชธานี เชียงใหม่ สงขลา และกรุงเทพฯ ช่วงวันที่ 1-12 ก.ย.ที่ผ่านมา และได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอย่างมาก โดยมีนักลงทุนเข้าร่วมรับฟังการนำเสนอข้อมูลในครั้งนี้มากกว่า 1,500 ราย
ทั้งนี้ ในการโรดโชว์ ผู้บริหารของบริษัท ที่ปรึกษาทางการเงิน พร้อมด้วยผู้จัดการการจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย ได้ร่วมกันให้ข้อมูลกับนักลงทุนเกี่ยวกับความพร้อมด้านการขยายกำลังผลิตและจำหน่ายอิฐมวลเบาของบริษัท ซึ่งเป็นผลจากการขยายตัวของเศรษฐกิจ การลงทุนในโครงการภาครัฐ-เอกชนที่กำลังจะเกิดขึ้น ปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้ SMART มีโอกาสการเติบโตได้อย่างโดดเด่นและต่อเนื่อง ซึ่งนักลงทุนส่วนใหญ่มีความเชื่อมั่นต่อทิศทางการดำเนินงานและปัจจัยพื้นฐานของบริษัท
นายนิมิต วงศ์จริยกุล กรรมการบริหาร บล.โนมูระ พัฒนสิน(CNS) ผู้จัดการการจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย SMART เปิดเผยว่า SMART จะเปิดจองซื้อหุ้นจำนวน 115 ล้านหุ้น ในราคา 1.90 บาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 46 ล้านหุ้น เสนอขาย Pre-emptive Right ในวันที่ 17-20 ก.ย. เสนอขายไอพีโอจำนวน 69 ล้านหุ้นในระหว่างวันที่ 22-24 ก.ย. และเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ วันที่ 2 ต.ค.57
“SMART จะเป็นหุ้นอีกตัวใน เอ็ม เอ ไอ ที่มีความโดดเด่น สร้างผลตอบแทนที่ดีทั้งในระยะกลาง และระยะยาว เนื่องจากมีแนวโน้มการเติบโตดี ทั้งในแง่ของปัจจัยพื้นฐาน การเติบโตของผลประกอบการ ฐานะการเงินแข็งแกร่ง หนี้สินต่อทุนอยู่ในระดับต่ำ มีความพร้อมในการขยายธุรกิจรองรับ Demand อิฐมวลเบาในตลาดที่เพิ่มสูงขึ้น ขณะเดียวกันยังมีการจ่ายปันผลไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิ"นายนิมิต กล่าว