การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบสลับกัน โดยแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 1,584.92 จุด ส่วนจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 1,569.23 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 310 หลักทรัพย์ ลดลง 486 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 204 หลักทรัพย์
นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กรุงศรี กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในวันนี้ดัชนีมีความผันผวนและเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบสลับกัน โดยมีแรงขายทำกำไรและแรงซื้อสลับเข้ามาเป็นช่วง ๆ อย่างไรก็ตามตลาดหุ้นไทยยังไร้ปัจจัยใหม่เข้ามากระทบทั้งในเชิงบวก-ลบ
"วันนี้ดัชนีผันผวนแต่ก็ยังแข็งแรงอยู่ แม้ว่าตอนเปิดตลาดช่วงบ่ายมาจะลงไปมากหน่อยแต่ก็ยังกลับมาทรงตัวได้ แต่ช่วงนี้ก็ยังไม่มีปัจจัยใหม่ ๆ เข้ามา การลงทุนของของนักลงทุนยังเป็นแบบ wait & see บางช่วงก็มีแรงขายแล้วก็มีแรงซื้อกลับมา แต่สำหรับปัจจัยในระเทศนั้นเชื่อว่าสะท้อนว่านักลงทุนเชื่อมั่นปัจจัยพื้นฐานของบริษัทจดทะเบียน และการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ แต่ยังติดอยู่กับความเสี่ยงของปัจจัยต่างประเทศที่ยังไม่ชัดเจน ทำให้ดูเหมือนกับว่าตลาดฯจะเป็นการพักฐาน"นายธนเดช กล่าว
ขณะที่ตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียในวันนี้ ดัชนีของตลาดหุ้นในบางประเทศเคลื่อนไหวในแดนบวก และตลาดหุ้นในบางประเทศดัชนีเคลื่อนไหวในแดนลบ ยังไร้ปัจจัยใหม่เข้ามากระทบเช่นเดียวกับตลาดหุ้นไทย
แนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้า นายธนเดช ประเมินว่า ในช่วงวันจันทร์-พุธ ดัชนีจะมีโอกาสผันผวนค่อนข้างมาก เนื่องจากนักลงทุนต่างรอความชัดเจนของผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)ที่จะทราบกันในวันพฤหัสบดีว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือไม่ เป็นปัจจัยที่กดดันการลงทุนของตลาดหุ้นทั่วโลกที่นักลงทุนต้องติดตามอย่างใกล้ชิด พร้อมให้แนวต้าน 1,590-1,600 จุด แนวรับ 1,565 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
TRUE มูลค่าการซื้อขาย 2,959.60 ล้านบาท ปิดที่ 12.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
JAS มูลค่าการซื้อขาย 2,571.84 ล้านบาท ปิดที่ 7.15 บาท เพิ่มขึ้น 0.30 บาท
CKP มูลค่าการซื้อขาย 2,286.81 ล้านบาท ปิดที่ 19.70 บาท เพิ่มขึ้น 2.80 บาท
KBANK(XD) มูลค่าการซื้อขาย 1,598.02 ล้านบาท ปิดที่ 227.00 บาท ลดลง 1.00 บาท
BGH มูลค่าการซื้อขาย 1,392.40 ล้านบาท ปิดที่ 18.80 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท