บริษัทคาดว่าผลประกอบการจะพลิกกลับเป็นกำไรในปี 58 หลังจากประเมินว่าปีนี้จะยังคงขาดทุน เนื่องจากมีการลงทุนในธุรกิจใหม่ โดยบริษัทเตรียมเปิดให้บริการขายสินค้าแลกคะแนนสะสม(point)บนเว็บไซต์ www.abcpoint.com ตั้งแต่วันที่ 6 ต.ค.นี้
"ปัจจุบันบริษัทฯยังคงขาดทุนสะสมอยู่ 160 ล้านบาท ซึ่งประเมินว่าปีนี้กำไรไม่น่าจะเป็นบวกได้ จากที่เราก็ยังต้องมีการลงทุนอยู่ แต่น่าจะพลิกกลับมามีกำไรได้ในปี 58 แทน"นางกันตพร กล่าว
ธุรกิจใหม่ดังกล่าวเป็นธุรกิจประเภทพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-business) โดยลูกค้าสามารถโอนคะแนนสะสมในบัตรเครดิตของธนาคารพาณิชย์มาแลกซื้อสินค้าหรือบริการต่างๆ ของบริษัทได้ โดยขณะนี้มีธนาคารพาณิชย์ 3 แห่งให้ความร่วมมือแล้ว ได้แก่ บมจ.บัตรกรุงไทย (KTC) ธนาคารกรุงเทพ และธนาคารกสิกรไทย คาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะมีธนาคารเข้าร่วมเป็นพันธมิตรมากถึง 14 ราย และ non-bank อีก 6-7 ราย
ทั้งนี้ ระบบการซื้อสินค้าจากบริษัทนั้น สามารถทำได้ 2 วิธี คือ การแสดงความยินยอมให้โอนคะแนนสะสมจากบัตรเครดิตมายังบริษัท หลังจากนั้นบริษัทจะบริหารจัดการและเปิดให้แลกสินค้าหรือบริการ รวมทั้งซื้อคะแนนเพิ่มเติมผ่านบริษัทได้โดยตรง โดยตั้งเป้าหมายฐานสมาชิกไว้ 1 ล้านคนภายในปีนี้ ซึ่งกลุ่มเป้าหมายจะเป็นคนเมืองในเขตกรุงเทพฯ ที่ใช้บัตรเครดิตเป็นหลักอยู่แล้ว
ส่วนสินค้าและบริการที่จะนำเสนอให้ลูกค้านำ point มาแลกมีทั้งสินค้าทั่วไป อย่างเครื่องใช้ไฟฟ้า หรือ ตั๋วเครื่องบิน หรือ เป็นช่องทางบริจาคเงินให้กับองค์กรการกุศลต่าง ๆ หรือบัตรคอนเสิร์ตที่จัดขึ้นเป็นพิเศษ ซึ่งล่าสุดบริษัทมีแผนจัดคอนเสิร์ตของ 28 ศิลปินเกาหลีค่าย JYP ในวันที่ 13 ธ.ค. นี้ และตั้งเป้าจะจัดอีกประมาณ 6 คอนเสิร์ตในปีหน้า โดยขณะนี้ได้เซ็นสัญญากับ 3 ค่ายเพลงในเกาหลีไว้แล้ว นอกจากนั้นเพื่อเป็นการทำตลาดช่วงเปิดเว็บไซต์ให้เป็นที่รู้จัก จะมีการนำสินค้าที่เป็นที่ต้องการของตลาดมาเสนอขาย เช่น IPhone 6 รวมทั้งกำลังพิจารณาจะให้นำ point มาใช้ในการจ่ายค่าบริการสาธารณูปโภคต่าง ๆ เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ และค่าโทรศัพท์ เป็นต้น
"เรามีการเตรียมตัวมาได้ 4 เดือนแล้ว สำหรับธุรกิจใหม่ประเภท E-commerce service ซึ่งก็มีการใช้งบลงทุนรวม 100 ล้านบาท ใช้ในการลงทุนระบบ IT 50 ล้านบาท และการตลาดโฆษณาผ่านเว็บไซต์อื่นๆ 50 ล้านบาท โดยธุรกิจซื้อสินค้าผ่านเว็บไซต์ ที่เป็นรูปแบบของการใช้พอยต์ของธนาคาร ถือได้ว่าเราเป็นเจ้าแรกที่ดำเนินธุรกิจในลักษณะนี้ ซึ่งเราก็คาดว่าจากที่มีการเปิดให้บริการ จะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ขณะนี้เราก็มีสินค้าเพื่อรอขายแล้วราว 200 รายการ อย่างไรก็ตามจะสามารถมีรายได้เข้ามาเลย"นางกันตพร กล่าว
ด้านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์นั้น นางกันตพร กล่าวว่า ขณะนี้ห้องชุดโครงการบ้านนวธารา รีเวอร์ไลฟ์ จำนวน 19 ยูนิต มูลค่ารวม 29.23 ล้านบาท โอนให้กับลูกค้าแล้วจำนวน 7 ยูนิต และอยู่ระหว่างรอโอนอีก 5 ยูนิต คาดว่าจะทยอยโอนให้ลูกค้าได้ภายในปี 57 เหลืออีก 7 ยูนิตน่าจะจำหน่ายได้หมดภายในปีนี้ ขณะที่ห้องชุดโครงการบ้านสาทร เจ้าพระยา จำนวน 9 ยูนิต มูลค่าประมาณ 104.66 ล้านบาท ได้โอนให้กับลูกค้าแล้ว 1 ยูนิต ราคาประมาณ 13 ล้านบาท เหลืออีก 8 ยูนิตคาดว่าจะปิดการขายได้ภายในปี 58
"ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เราก็ขอชะลอไว้ก่อน ซึ่งตอนนี้ก็ขายที่มีอยู่ให้หมด และจะขอพักตรงนี้ไว้สัก 3 ปี เพื่อดำเนินธุรกิจ E-business อย่างเต็มที่ จากนั้นค่อยกลับมาดูใหม่ว่าจะยังทำอสังหาริมทรัพย์ต่อหรือไม่ โดยสัดส่วนรายได้ปัจจุบัน 80% เป็นอสังหาริมทรัพย์ และ 20% เป็น E-business ซึ่งธุรกิจใหม่ก็จะมีสัดส่วนรายได้มากขึ้นหลังจากนี้ไป"นางกันตพร กล่าว