"งานตกแต่งภายในโครงการ The Park Land Sen Sok" ของกัมพูชา คาดว่าจะใช้เวลาในการก่อสร้าง 2 ปี และน่าจะมีรายได้เข้ามาตั้งแต่ต้นในปี 58 ซึ่งในปีหน้าจะรับรู้รายได้ประมาณ 50% และอีก 50% เป็นปี 59" นางนุชนารถ กล่าว
ขณะที่บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศเป็น 10% ในปี 58 โดยบริษัทฯอยู่ระหว่างรอเข้าไปประมูลงานเพิ่มอีก ได้แก่ ประเทศพม่า ซึ่งเป็นงานตกแต่งภายในโรงแรมของผู้ประกอบการเกาหลี มูลค่างานกว่า 100 ล้านบาท ประเทศซาอุดิอาระเบีย เป็นงานตกแต่งภายในโรงงาน มูลค่างาน 1,000 ล้านบาท และประเทศการ์ต้า มูลค่างาน 100 ล้านบาท คาดว่าจะเซ็นสัญญาได้ทั้งหมดในปี 58
สำหรับผลประกอบการในปี 57 บริษัทฯยังคงเป้าหมายรายได้เติบโตอยู่ที่ 1.1 พันล้านบาท จากปีก่อนอยู่ที่ 601.28 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิคาดว่าจะเติบโตอย่างก้าวกระโดด เมื่อเทียบกับปีก่อนที่อยู่ที่ 14.79 ล้านบาท ส่วนอัตรากำไรสุทธิ จะอยู่ที่ 15% จากงานที่มีในมือ (backlog) กว่า 2,000 ล้านบาท คาดว่าจะทยอยรับรู้ในปีนี้ประมาณ 1,000 ล้านบาท โดยหลักๆจะเป็นงานตกแต่งภายในของโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ มูลค่า 500 ล้านบาท ที่จะรับรู้รายได้เข้ามาในช่วงเดือนต.ค.นี้ และงานโครงการปรับปรุงอาคารหอพักโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ มูลค่า 120 ล้านบาท และงานปรับปรุงโฉมโรงแรม พลาซ่าแอทธินี มูลค่ากว่า 207 ล้านบาท รวมถึงงานปรับปรุงมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี มูลค่า 100-200 ล้านบาท
นอกจากนี้บริษัทฯเตรียมเข้าประมูลงานอีก 2-3 พันล้านบาท โดยจะเป็นงานตกแต่งภายในของภาครัฐทั้งหมด ขณะที่งานตกแต่งภายในของรัฐสภาไทย ขณะนี้มีการยื่นเสนองานไปกับ บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (STEC) แล้ว ซึ่งvยู่ระหว่างรอผลการประมูล
นางนุชนารถ กล่าวอีกว่า บริษัทฯตั้งเป้ารายได้ปี 58 อยู่ที่ 1.3 พันล้านบาท หรือเติบโต 10% จากปีนี้ จากสัดส่วนรายได้ต่างประเทศเพิ่มขึ้น โดยมองแนวโน้มธุรกิจรับเหมาตกแต่งภายในอาเซียน ถือว่ามีความโดดเด่น และมีอัตราการเติบโตสูง เนื่องจากเป็นช่วงใกล้เปิดอาเซียน ทำให้หลายประเทศมีการตื่นตัวที่จะตั้งรับกับทุนนอก จึงเกิดโครงก่อสร้างอาคารขนาดใหญ่ ซึ่งโครงการเหล่านี้จะต้องมีการตกแต่งภายในทั้งหมด จึงส่งผลดีต่อบริษัทฯอย่างมาก