ขณะนี้โครงการดังกล่าวมีการเจรจาสัญญาซื้อขายก๊าซ LNG รองรับไว้แล้ว 5-6 ล้านตัน/ปี โดยมีลูกค้าจากประเทศจีน ญี่ปุ่น และไทย รวมทั้งยังรอการเจรจากับลูกค้าใหญ่ในอินเดียด้วย นอกจากนั้น ยังอยู่ระหว่างรอรัฐบาลโมซัมบิกออกกฎหมายรองรับโครงการนี้ เพื่อให้เกิดความมั่นใจในการลงทุน
"โรวูม่า เป็นแหล่งใหญ่ ทางเทคนิคเชื่อว่ามีอยู่เยอะ แต่มีจุดสำคัญคือเรื่องการขาย และรอรัฐบาลโมซัมบิกอนุมัติ ถึงจะเริ่มลงมือทำ"นายเทวินทร์ กล่าว
นายเทวินทร์ กล่าวยังถึงแหล่งเบอร์ซาบาในอัลจีเรีย โดยคาดว่าจะผลิตน้ำมันได้ภายในปลายปีนี้ หรือต้นปี 58 โดยมีกำลังการผลิต 20,000 บาร์เรล/วัน ส่วนแหล่งฮัดซีเบอร์ราเกซ (HBR) ในอัลจีเรีย บริษัทเตรียมเจาะหลุมประเมินผลประมาณ 4-5 หลุมและเตรียมการผลิตต่อไป
สำหรับแหล่งมอนทาร่าในออสเตรเลีย ขณะนี้ผลิตน้ำมันได้ 2.5 หมื่นบาร์เรล/วัน โดยปีนี้จะมีปริมาณการผลิตเฉลี่ย 1.6-1.7 หมื่นบาร์เรล/วัน โดยจะผลิตได้สูงสุดที่ 2.8 หมื่นบาร์เรล/วัน อย่างไรก็ตาม กำลังการผลิตเต็มที่อยู่ที่ 3 หมื่นบาร์เรล/วัน แต่ยังไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะติดปัญหาอีกหลุมหนึ่ง ส่วนแหล่งแคช เมเปิล ขณะนี้ได้มีผู้ยื่นข้อเสนอทั้งการเข้าซื้อ และร่วมทุน
บริษัทยังเตรียมเข้าผลิตแหล่ง M3 ในเมียนมาร์ หลังจากที่เข้าไปสำรวจแล้วคาดว่าจะมีปริมาณไม่มาก โดยจะผลิตส่งให้กับรัฐบาลเมียนมาร์ ส่วนแปลงที่ยังไม่ได้สำรวจได้แก่ MD7, MD8 อยู่ในทะเล บริษัทถือ 100%
นายเทวินทร์ กล่าวว่า ในช่วงนี้ที่ราคาน้ำมันดิบปรับลงต่ำกว่า 100 เหรียญ/บาร์เรล ไม่ค่อยกระทบกับราคาขายของบริษัท เพราะมีสัดส่วนของยอดขายก๊าซ 60-70% ของยอดขาย ราคาจึงค่อนข้างนิ่ง แต่ราคาขายของน้ำมันได้มีการบริการจัดการความเสี่ยงด้วยการทำประกันความเสี่ยงประมาณ 50%