นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดรีบาวน์กรอบแคบ นักลงทุนเก็งเรื่องเฟดอาจจะยังไม่เปลี่ยนแปลงทิศทางดอกเบี้ย รวมถึงข่าวเรื่องธนาคารจีนเตรียมอัดฉัดสภาพคล่องให้กับธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ 5 แห่งเป็นวงเงิน 5 แสนล้านหยวน เป็นผลดีต่อเรื่องราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ทำให้ราคาน้ำมัน ราคาโลหะปรับขึ้น ทำให้ตลาดหุ้นรีบาวน์กลับ ภายในของไทยมีปัจจัยเรื่องการผ่านร่างพ.ร.บ.งบประมาณปี 58 เมื่อวานนี้
"ดัชนีก็น่าจะรีบาวน์ได้เพราะตอนนี้อยู่ที่แนวรับพอดีที่ 1,565 จุด น่าจะดีดกลับไปได้ แต่มองกรอบไปไม่ไกลแนวต้าน 1,575 จุด บวกลบแถวนี้ นักลงทุนคงรอเรื่องถ้อยแถลงของเฟดจริงๆว่าจะส่งสัญญาณอะไรบ้าง ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ต้องจับตาทั่วโลก"นายอภิชาติ กล่าว
พร้อมให้แนวรับ 1,565 จุด ซึ่งจุดปิดเมื่อวาน ถ้าหลุดอาจไหลลง 1,555 และ 1,550 จุด แนวต้าน 1,575 จุด
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :
- ตลาดหุ้นนิวยอร์คล่าสุด(16 ก.ย.)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,131.97 จุด เพิ่มขึ้น 100.83 จุด (+0.59%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,552.76 จุด เพิ่มขึ้น 33.86 จุด (+0.75%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,998.98 จุด เพิ่มขึ้น 14.85 จุด (+0.75%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 2.42 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 244.27 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 37.64 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 9.14 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 10.60 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 5.97 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(16 ก.ย.) 1,565.41 จุด ลดลง 13.71 จุด(-0.87%)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 879.38 ล้านบาท เมื่อวันที่ 16 ก.ย.57
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ต.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(16 ก.ย.)ที่ 94.88 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.96 ดอลลาร์
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(16 ก.ย.)ที่ 6.75 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 32.20/22 แข็งค่าเล็กน้อย คาดวันนี้แกว่งกรอบแคบ รอผล FOMC-กนง.
- "ประยุทธ์" มั่นใจเศรษฐกิจไตรมาส 4 เริ่มฟื้น เดินหน้าหนุนส่งออก เล็งสร้าง "แบรนด์ประเทศไทย" เพิ่มขีดแข่งขันในตลาดโลก ขณะ "จักรมณฑ์" เผย ก.พ.ร. เตรียมศึกษายุบรวม "อุตสาหกรรมพาณิชย์" ตามแบบอย่าง "เมติ" ของญี่ปุ่น หวังสร้างเอกภาพนโยบายการค้า
- "ธ.ก.ส." ประเมิน 7 ปี จ่ายหนี้จำนำข้าว 7.55 แสนล้านหมด งบประมาณปี58 สามารถชำระหนี้ข้าวได้ 7.13 หมื่นล้านบาท "ลักษณ์" คาดยอดขาดทุนจำนำข้าวไม่ต่ำ กว่า 4 แสนล้าน เผย "ปรีดิยาธร" สั่งเกาะติดราคานาปี 57/58 รัฐหวังราคา ยืนเหนือ 8.5 พันบาทต่อตัน งัด 4 มาตรการลดต้นทุนการเงิน ชะลอข้าวล็อตใหม่ทะลัก ออกสู่ตลาด "ปนัดดา" ระบุผลตรวจตัวอย่าง สต็อกข้าวรัฐพบไม่ได้มาตรฐาน 70%
- บริษัทบริหารจัดการอสังหาฯ ระบุคอนโดศูนย์กลางธุรกิจ หรือ ซีบีดี ราคาพุ่งต่อเนื่อง พบย่านสีลม-สาทร-พระราม 4 ราคาสูงสุดที่ 3.6 แสนบาทต่อตารางเมตร ส่วนคอนโดเกาะแนวรถไฟฟ้า สถานีราชดำริ มีราคาสูงสุดที่ 2.7 แสนบาทต่อตารางเมตร ขณะที่ ฝั่งธนบุรี "บางแวก-ท่าพระ-จรัญฯ" เติบโตสูง อานิสงส์ส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ขณะที่ราคาขายคอนโดกรุงเทพฯ เฉลี่ยอยู่ที่ 9.4 หมื่นต่อตารางเมตรเพิ่มขึ้น 7%
- กสท. หารือช่อง3 นัดแรก "ไร้ข้อสรุป" เจรจารอบสอง 18 ก.ย. นี้ "สุภิญญา" ระบุช่อง 3 ยอมออนแอร์คู่ขนานช่อง 33 ยื่นหนังสือทบทวนมติ กสท. สั่งจอดำ โครงข่ายเคเบิล-ดาวเทียม วันนี้ ด้านเครือข่ายภาคประชาชนฯ ร้องตรวจสอบสัญญาสัมปทานช่อง 3 หวั่นขัดกฎหมาย สำนักงานฯ หารือโครงข่ายเร่งแผนขยายพื้นที่ส่งสัญญาณทีวีดิจิทัลรับโครงการแจกคูปองปีนี้ 42 จังหวัด
*หุ้นเด่นวันนี้
- ERW (เมย์แบงก์กิมเอ็ง)"ซื้อเก็งกำไร"เป้า 6.00 บาท วานนี้ ครม.อนุมัติจัดตั้งกองทุนประกันภัยท่องเที่ยว วงเงิน 200 ล้านบาท เป็นบวกต่อหุ้นกลุ่มท่องเที่ยว เนื่องจากคาดว่าจะส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติมีความเข้าใจต่อสถานการณ์การเมืองในประเทศมากขึ้น และเป็นบวกต่อจำนวนนักท่องเที่ยวใน 4Q57 ที่เป็น High Season ของธุรกิจ ผลประกอบการผ่านพ้นจุดต่ำสุดแล้วใน 2Q57 ที่ผ่านมา และคาดว่าจะฟื้นตัวในลักษณะ V-Shapre ใน 2H57 ขณะที่กำไรสุทธิปี 2558 คาดว่าจะเติบโต +227.4% yoy เป็น 338 ล้านบาท เติบโตสูงที่สุดในกลุ่มโรงแรม แผนขยายตลาดของ Budget Hotel ได้แก่ IBIS และ HOPINN ที่จับกลุ่มลูกค้าระดับกลาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักท่องเที่ยวจากจีน และในเอเชียจะเป็นกุญแจสำคัญเพื่อผลักดันการเติบโตในระยะยาว และปี 2558 จะรับรู้รายได้เต็มปีของโรงแรมเปิดใหม่ทั้ง 13 แห่ง
- SCC(ทิสโก้)"ซื้อ"เป้า 508 บาท แม้ผู้บริหารจะมีเป้าว่ากำไรสุทธิของกลุ่มในช่วง 3Q57 ก็มีแนวโน้มลดลงทั้ง QoQ และ YoY เนื่องจากส่วนต่างราคาสินค้าปิโตรเคมีจะลดลงจากคาดการณ์ว่า ต้นทุนวัตถุดิบเพิ่มขึ้น การปิดตัวลงของโรงงาน PTTGC และราคานาฟทาที่ลดลงมาก (ตามราคาน้ำมัน) จะยิ่งทำให้ส่วนต่างยิ่งแย่ลงไปอีก โดยราคานาฟทาลดลงถึง $112.8/t ไปยังระดับ $868.5/t จากสิ้น 2Q57 ซึ่งหากราคายังอยู่ในระดับนี้จนถึงสิ้นเดือนนี้ เราคาดว่า SCC จะต้องบันทึกขาดทุนสต็อกราว 500-700 ลบ. อย่างไรก็ตาม การขาดทุนดังกล่าวก็จะถูกหักล้างบางส่วนจากส่วนต่าง HDPE และ PP ที่สูงขึ้น QoQ แต่การขาดทุนดังกล่าวเป็นเพียงแค่ชั่วคราว และคาดว่าผลประกอบการของ SCC จะค่อยๆ ดีขึ้นใน 4Q57 โดยแนวโน้มกำไรสุทธิในปี 2558-59F จะยังคงดีอยู่