ทั้งนี้ โครงการที่จะทำให้บริษัทได้รับประโยชน์ในปีหน้า ได้แก่ โครงการขยายและปรับปรุงระบบสายส่งไฟฟ้าทั่วประเทศรวมมูลค่า 1.7 แสนล้านบาท, โครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 3 ประเภท คือ โครงการโซล่าร์ฟาร์มค้างท่อ 576 เมกะวัตต์ โครงการโซล่าร์รูฟท็อประดับบ้านเรือน 60 เมกะวัตต์ และโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ชุมชน 800 เมกะวัตต์ ซึ่งกำลังจะเปลี่ยนจากชุมชนมาเป็นหน่วยงานราชการและสหกรณ์การเกษตร
"ประเมินหากโครงการโซลาร์ฟาร์มค้างท่อ 567 MW กับโครงการโซล่าร์ฟาร์มชุมชน 800 MW รวมกันราว 1,367 MW จะทำให้กิจการหม้อแปลงไฟฟ้าเติบโตขึ้นอย่างมาก คาดว่าต้องใช้หม้อแปลงไฟฟ้าเพิ่มขึ้นราว 1,250 เครื่อง ถ้างานนี้เดินหน้าบริษัทคาดว่าได้ออร์เดอร์ราว 30-40% ก็จะส่งผลดีในปี 58 เป็นต้นไปที่จะทยอยเข้ามา"นายดนุชา กล่าว
สำหรับผลประกอบการในปีนี้ บริษัทคาดว่ารายได้จากการขายหม้อแปลงจะทำได้ใกล้เคียงกับปีก่อนที่ราว 2,000 ล้านบาท โดยปัจจุบันมีงานในมือ(backlog) ราว 1,100 ล้านบาท ทยอยรับรู้เป็นรายได้ในปีนี้ 900 ล้านบาท และปีหน้า 200 ล้านบาท ซึ่งในมูลค่างานที่จะรับรู้ฯในปีนี้เป็นงานของการไฟฟ้าราว 200 ล้านบาท ที่เหลือเป็นงานเอกชนทั้งในและต่างประเทศ ส่วนกำไรจากการดำเนินงานในปีนี้จะสูงกว่าปี 56 แต่กำไรสุทธิคงเทียบไม่ได้เพราะปีก่อนมีกำไรจากการปรับโครงสร้างหนี้เข้ามากว่า 200 ล้านบาท โดยอัตรากำไรขั้นต้นของการผลิตหม้อแปลงอยู่ที่ 25% อัตรากำไรสุทธิ 7-10% แม้ราคาวัตถุดิบปรับขึ้นแต่บริษัทก็สามารถปรับราคากับลูกค้าได้ เนื่องจากเป็นการผลิตตามคำสั่งซื้อของลูกค้า (Made to Order)
"ไตรมาส 4/57 คาดจะรับรู้รายได้สูงสุดของปีราว 800-900 ล้านบาท โดย 9 เดือน ส่งมอบงานได้รวม 1,100 ล้านบาท ส่วนใหญ่เลี่อนไปส่งมอบไตรมาส 4 เนื่องจากไตรมาส 1-2 ออร์เดอร์ไม่มา เริ่มมาตั้งแต่ไตรมาส 3-4 แต่พอปี 58 ไตรมาส 1 ก็งานเต็มแล้ว จึงคาดปี 58 รายได้น่าจะเติบโตจากปีนี้ 15-20%" นายดนุชา กล่าว
นายดนุชา เปิดเผยว่า บริษัทได้ยื่นประมูลงานหม้อแปลงไฟฟ้าของภาครัฐไปแล้วรวมมูลค่า 3,000 ล้านบาท คาดว่าได้งานราว 10-15% ของมูลค่าดังกล่าว ซึ่งเป็นงานของการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) น่าจะรู้ผลการประมูลราวปลายเดือน ก.ย.ถึงต้นเดือน ต.ค.57 หากได้รับงานเข้ามาก็จะเป็น backlog ของปี 58
ในปีนี้บริษัทใช้เงินลงทุนราว 70 ล้านบาทสำหรับซื้อเครื่องจักร แบ่งเป็นเครื่องตัดเหล็ก 40 ล้านบาท เครื่องพันคอยล์ 30 ล้านบาท ปัจจุบันโรงงานมีกำลังการผลิตหม้อแปลงไฟฟ้าราว 600 เครื่อง/เดือน หรือราว 2.5 แสน kVA/เดือน ซึ่งหากผลิตเต็มที่ 100% ก็ยังเพียงพอรองรับตลาดหม้อแปลงไฟฟ้าที่จะเติบโตขึ้นในอีก 2 ปีข้างหน้า