ด้านแหล่งข่าวจาก บล.บัวหลวง ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของ BA เปิดเผยว่า ขณะนี้สำนำงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)ได้เริ่มนับ 1 แบบแสดงรายการข้อมูล(ไฟลิ่ง)ในการเสนอขายหุ้น IPO ของ BA แล้วเมื่อวันที่ 17 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยบริษัทจะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 520 ล้านหุ้น และผู้ถือหุ้นเดิมจะเสนอขายหุ้นออกมาด้วยไม่เกิน 210 ล้านหุ้น รวมเสนอขายหุ้นทั้งสิ้น 730 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท
"ตอนนี้ไฟลิ่งของการบินกรุงเทพได้เริ่มนับ 1 แล้ว ต่อไปก็ต้องรอให้ทางก.ล.ต.อนุมัติไฟลิ่งก่อน ค่อยเดินหน้าต่อไปได้ ....หุ้นตัวนี้จะมีการขายนักลงทุนต่างชาติด้วย"ที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าว
วัตถุประสงค์การใช้เงินจากการระดมทุนครั้งนี้ เพื่อใช้ขยายฝูงบิน รวมทั้งการปรับเปลี่ยน และ/หรือทดแทนฝูงบินเดิม, การจัดซื้อเครื่องยนต์ อะไหล่ และอุปกรณ์สำรองสำหรับฝูงบินที่เพิ่มขึ้นตามมาตรการฐานของอุตสาหกรรม, การก่อสร้าง โรงซ่อมอากาศยายนที่สนามบินสุวรรณภูมิ, เงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ รวมถึงการปรับปรุงสนามบินสมุย
บมจ.การบินกรุงเทพ ระบุว่า ณ วันที่ 30 มิ.ย.57 บริษัทให้บริการเที่ยวบินแบบประจำในเส้นทางการบินภายในประเทศ 14 เส้นทาง และระหว่างประเทศอีก 13 เส้นทาง
ด้าน บล.เอเชีย พลัส ซึ่งจะเข้าร่วมเป็นผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ BA ระบุในบทวิเคราะห์ฯว่า มูลค่ากิจการของ BA อยู่ที่ 6.1-6.5 หมื่นล้านบาท อิง Sum of the Part (ธุรกิจการบิน + มูลค่าหุ้น BGH ที่ BA ถือหุ้น 7.83%)
ขณะที่ผลกระทบจากการปรับปรุงมาตรฐานบัญชีกองทุน SPF ซึ่งทำให้ BA ต้องบันทึกค่าใช้จ่ายทางบัญชีสูงขึ้น (ไม่กระทบกระแสเงินสด) ส่งผลให้กำไรสะสมจนกลายเป็นติดลบ BA มีแผนจะนำส่วนเกินมูลค่าหุ้นที่ได้จากการระดมทุนมาล้างขาดทุน เพื่อจ่ายเงินปันผลในอนาคต
การระดมทุนในรอบนี้ส่วนใหญ่จะถูกนำไปใช้ขยายฝูงบินอีกปีละ 5-6 ลำในช่วงปี 57-60 (กำลังการให้บริการปี 60 จะเพิ่มขึ้น 2.3 เท่าตัวจากปี 56 โดยจะนำฝูงบินไปบินในเส้นทางที่หวัง ผลตอบแทนสูงได้ อาทิ เชียงใหม่-อุดรธานี เชียงใหม่-ภูเก็ต เชียงใหม่-มัณฑะเลย์ นอกจากนี้ ยังจะเสริมเที่ยวบินที่จะลงสู่สนามบินสมุย ซึ่งอยู่ระหว่างขออนุมัติจากกรมการบินพลเรือนเพิ่มเที่ยวบินลงสู่สมุยจาก 36 เที่ยวในปัจจุบัน (ซึ่ง BA เป็นผู้ทำการบิน 32 เที่ยว) เป็น 50 เที่ยว คาด BA จะเพิ่มเที่ยวบินสมุยอย่างช้าช่วงฤดูหนาวปี 58 โดยเน้นการเปิดเส้นทางใหม่สู่จีน
ทั้งนี้ แม้คาดกำไรปีนี้ไม่สดใสจากผลกระทบการเมือง แต่จะกลับมาเติบโตสูงปีละ 90% ใน 2 ปีหลังจากนี้