ขณะนี้ขั้นตอนการพิจารณาอยู่ในอำนาจของคณะกรรมการตามมาตรา 13 แห่งพ.ร.บ.การให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินงานในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2535 (พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ 35) ซึ่งต้องให้คณะกรรมการทำหน้าที่เต็มที่ก่อน และเมื่อสรุปได้ ขั้นต่อไปคือทางกระทรวงจะรับลูกต่อ ซึ่งในการพิจารณาจะเน้นที่ประชาชนได้เปรียบ คือ เดินทางสะดวกปลอดภัย ได้รับบริการตามมาตรฐานสากล โดยต้องพิจารณากฎกติกา ถูกหลักธรรมาภิบาล การมีส่วนร่วม หลักเหตุผลและโปร่งใสมากที่สุด ส่วนรฟม.จะต้องไม่เอื้อประโยชน์ให้บริษัทใดบริษัทหนึ่ง
"หากตรวจสอบแล้ว ทำให้รฟม.ดำเนินงานมีความชัดเจนโปร่งใส แล้วโครงการอาจล่าช้าออกไปบ้างก็สามารถรับได้...ผมจะทำทุกอย่างให้ดีที่สุด" พล.อ.อ.ประจิน กล่าว
ด้านนายสมบัติ กิจจาลักษณ์ กรรมการผู้จัดการ บมจ. รถไฟฟ้ากรุงเทพ (BMCL) กล่าวถึงแนวโน้มการดำเนินงานของบริษัทในปี 57 ว่า คาดว่าในภาพรวมจะขาดทุนลดลงจากปีก่อนไม่ต่ำกว่า 20% โดยปี 2556 ขาดทุนประมาณ 800 ล้านบาท เนื่องจากในปีนี้ภาพรวมจำนวนผู้โดยสารเติบโตจากปีก่อนประมาณ 5-6% โดยผู้โดยสารเฉลี่ยอยู่ที่ 2.7-2.8 แสนคนต่อวัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 4-5% ทำให้รายได้เติบโตที่ประมาณ 10% ขณะที่ค่าใช้จ่ายเท่าเดิมและมีต้นทุนทางการเงินในเรื่องดอกเบี้ยลดลง
ทั้งนี้สาเหตุหนึ่งที่ทำให้รายได้เพิ่มถึง 10% เนื่องจากผู้โดยสารเดินทางระยะทางไกลขึ้น ส่วนรายได้จากกิจกรรมเชิงพาณิชย์ในปีนี้จะเพิ่มขึ้น 10% จากปีก่อนที่มีรายได้ 400 ล้านบาท อย่างไรก็ตามเมื่อรถไฟฟ้าสายสีม่วง (บางใหญ่-บางซื่อ) เปิดให้บริการช่วงปี 2559 ก่อน เชื่อว่าจะเริ่มมีกำไร