สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย(ThaiBMA)สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยวันนี้ มีมูลค่าการซื้อขายรวม 68,575 ล้านบาท โดยประเภทของตราสารที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุด คือ พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย โดยมีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 34,464 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 50.3% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวันนี้ ลำดับถัดมาคือ ตั๋วเงินคลัง มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 17,099 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 24.9% ทางด้านหุ้นกู้เอกชนมีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 1,778 ล้านบาท หรือคิดเป็น 2.6% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด
สำหรับ พันธบัตรรัฐบาล รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุดในวันนี้คือ พันธบัตรรุ่น LB196A, LB21DA และ LB176A(รุ่นอายุ 4.8 ปี, 7.3 ปี และ 2.8 ปี ตามลำดับ) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 9,462 ล้านบาท หรือคิดเป็น 64% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้านหุ้นกู้เอกชนรุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. หุ้นกู้มีประกันของบริษัท โกลว์ พลังงาน จำกัด(มหาชน)(GLOW218A) มูลค่า 292.4 ล้านบาท
2. หุ้นกู้บ้านปู(BANPU225A) มูลค่า 231.0 ล้านบาท
3. หุ้นกู้มีประกันของบริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง(ประเทศไทย) จำกัด(TLT155A) มูลค่า 152.2 ล้านบาท
โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 675.7 ล้านบาท หรือคิดเป็น 38.0% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมดในวันนี้
ทางด้านประเภทของนักลงทุน ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุดเป็น 2 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 1,600 ล้านบาท
2. กลุ่มบริษัทจดทะเบียนในประเทศ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 6,448 ล้านบาท
ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 671 ล้านบาท
ผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 3 เดือน ปิดที่ 2.02% ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเมื่อวาน และผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี ปิดที่ 3.02% ปรับตัวลดลงจากเมื่อวาน -0.02%
Yield Curve ปรับลดลง ในตราสารอายุ 5-30 ปีขึ้นไป ประมาณ 1-2 bps. นักลงทุนยังคงติดตามตัวเลขเศรษฐกิจ โดยเฉพาะตัวเลขคาดการณ์ GDP ปี 2557 และเป้าหมายปี 2558 ที่ธปท.จะแถลงตัวเลขวันที่ 26 ก.ย.นี้ ด้านปัจจัยต่างประเทศ ตลาดจับตาตัวเลขคาดการณ์ครั้งสุดท้าย GDP ไตรมาส 2/2014 ของสหรัฐฯ ที่จะประกาศออกมาปลายสัปดาห์นี้ เพื่อประเมินความเป็นไปได้ในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ FED สำหรับนักลงทุนต่างชาติวันนี้มียอดซื้อสุทธิ(NET BUY)เท่ากับ 671 ล้านบาท