โบรกฯแนะ"ซื้อ"SVI ขยายไลน์ผลิต-รับออเดอร์เพิ่ม,ลุ้นดีล M&A กิจการยุโรป

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday September 24, 2014 10:23 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

โบรกฯ แนะ"ซื้อ"หุ้น บมจ.เอสวีไอ(SVI)อยู่ระหว่างขยายกำลังการผลิตและเจรจาลูกค้าใหม่หนุนการเติบโตในปี 58 ขณะที่แนวโน้มกำไรฟื้นตัวดีในครึ่งหลังปี 57 ต่อเนื่องไปถึงไตรมาส 1/58 นอกจากนั้น ยังมุ่งหน้าซื้อกิจการเพิ่มเจรจางดีลอิเล็กฯอุปกรณ์การแพทย์ในยุโรปมาร์จินสูงคาดสรุปต้นปีหน้า ซึ่งยังไม่รวมในประมาณการ

          โบรกฯ                        คำแนะนำ               ราคาเป้าหมาย(บาท)
          บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็งฯ              ซื้อ                        7.00
          บล.เคเคเทรด                    ซื้อ                        5.90
          บล.ฟิลลิปฯ                       ซื้อ                        5.60-5.70
          บล.ฟินันเซีย ไซรัส                 ซื้อ                        5.30
          บล.ดีบีเอส วิสคอร์สฯ      อยู่ระหว่างปรับประมาณการขึ้น             5.00(เดิม)

นายฉัตรชัย จินดารัตน์ นักวิเคราะห์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง(ประเทศไทย)มองว่า ผลประกอบการ SVI ไตรมาส 3/57 น่าจะเติบโตดีจากปกติเคยเป็น low season และไตรมาส 4 ปีนี้จะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุด เพราะกำลังการผลิตเพิ่งแล้วเสร็จสมบูรณ์ในไตรมาส 3 ประกอบกับโรงงาน SVI-2 ที่ปิดไปนาน น่าจะปรับปรุงแล้วเสร็จช่วง ต.ค.57 ก็จะมีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นมาอีกจากปัจจุบันใช้กำลังการผลิตแน่นเกือบ 100% ดังนั้น ลูกค้าใหม่ที่ทยอยส่งออร์เดอร์มาก็จะแน่นในไตรมาส 4 ซึ่งจะทำให้ไตรมาส 4 น่าจะดีที่สุดของปีและต่อเนื่องไปไตรมาส 1/58

ขณะเดียวกันบริษัทอยู่ระหว่างรอการอนุมัติของลูกค้ารายใหม่กลุ่มยานยนต์อย่างน้อย 2 ราย คาดจะเห็นความชัดเจนในช่วงปีนี้ หากได้ออร์เดอร์ก็จะสร้างรายได้สูงสุดถึง 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯต่อปี คาดว่าไตรมาส 2/58 จะเริ่มมีรายได้ราว 20 ล้านดอลลาร์ฯ เริ่มไตรมาส 2/58 เป็นต้นไป ถ้ารวมเข้าไปน่าจะเป็นบวกต่อประมาณการเพิ่มขึ้นราว 5%

นอกจากนี้ ยังมีประเด็นบวกที่รออยู่ คือ การทำ M&A บริษัทอิเล็กทรอนิกส์ในยุโรป ซึ่งเป็นธุรกิจการแพทย์ อัตรากำไรขั้นต้นสูงกว่า SVI ถึงเท่าตัวราว 25% ขณะที่ SVI อยู่ที่ราว 12% หากได้เข้ามาก็จะสร้างรายได้ให้ SVI เพิ่มขึ้นอีก 50% จากฐานรายได้ปกติและมาร์จินภาพรวมน่าจะดีขึ้นไปอีก ดังนั้น กำไรน่าจะเติบโตได้มากกว่า 50%

อย่างไรก็ตาม การ M&A น่าจะเห็นความชัดเจนภายในครึ่งแรกของปีหน้า เพราะฉะนั้นการรวมรายได้และกำไรน่าจะเกิดขึ้นในปี 59 ซึ่งก็ยังไม่รวมในประมาณการขณะนี้

"ถ้าได้ M&A เข้ามาก็จะทำให้ภาพ SVI เปลี่ยนไป อัตรากำไรเติบโตแบบ 50% ภายใน 1 ปีทำได้ไม่อยากให้เป็น Top Pick สำหรับไตรมาส 4 ยังมี upside ให้ขึ้นไปได้อีก เพราะราคาเป้า 7.00 บาท ปี 58 ถ้าได้ลูกค้าใหม่ก็จะขยับขึ้นไปเรื่อยๆ"นายฉัตรชัย กล่าว

น.ส.นารี อภิเศวกานต์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป มองแนวโน้ม SVI ดีเพราะวันข้างหน้าลูกค้าใหม่จะช่วยเพิ่มรายได้ และปี 58 แนวโน้มจะดีในแง่ของลูกค้าใหม่ที่มีคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้น ไตรมาส 3 นี้ งบฯก็น่าจะดีอานิสงส์บาทอ่อนเล็กน้อยด้วย และปีนี้ยอดขายค่อนข้างดีราว 300 ล้านเหรียญสหรัฐ ปี 58 รอลูกค้าใหม่เป็นหลัก ขณะที่ M&A อยู่ระหว่างดีล ยังไม่ได้สรุปจะเห็นเข้ามาได้เมื่อไร

ขณะที่ บล.เคเคเทรด ระบุว่า การปรับปรุงและพัฒนาโรงงาน SVI-2 ที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมใหญ่ ทำให้บริษัทมีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี จากเดิมผลิตได้ที่ 340 ล้านดอลลาร์ โดยโรงงานนี้จะรองรับคำสั่งจากลูกค้าใหม่ในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ 2 ราย (สหรัฐและสวีเดน) ซึ่งเป็นสินค้าที่มีอัตรากำไรสูง และจะเริ่มดำเนินการผลิตทางพาณิชย์ตั้งแต่ 2Q58 เป็นต้นไป คาดยอดขายส่วนเพิ่มจากโรงงานใหม่ในปี 58 ไว้ที่ 30 ล้านดอลลาร์ และจะส่งผลให้ SVI มีการเติบโตเฉลี่ยของกำไรในช่วง 57-59 ที่ 13% ต่อปี ฟื้นตัวชัดเจนจากช่วงปี 54-56 ที่มีการเติบโตเฉลี่ยของกำไรปกติที่ -21%

ผู้บริหาร SVI ยังมีแผนเข้าซื้อกิจการอิเล็กทรอนิกส์ในการผลิตอุปกรณ์การแพทย์ที่ใช้เทคโนโลยีการผลิตสูง โดยคาดว่ามีมูลค่าราว 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และจะทราบผลการเจรจาภายใน 4Q57 นี้ ยังไม่รวมการเติบโตแบบ Inorganic ไว้ในประมาณการ เนื่องจากยังมีความไม่แน่นอนสูง นอกจากนี้ SVI ยังมีทางเลือกที่จะลงทุนปรับปรุงโรงงาน SVI-2 เพิ่มเติมเพื่อรองรับการผลิตในกลุ่มสินค้านี้ด้วยตนเอง (กำลังการผลิตเพิ่มขึ้น 100 ล้านดอลลาร์) ทั้งนี้ มองการขยายธุรกิจนี้เป็นบวกและเป็นอัพไซด์ส่วนเพิ่มต่อมูลค่าหุ้นในปัจจุบัน

คาดการณ์กำไรสุทธิปกติปี 57 และปี 58 ที่ 851 และ 1,012 ล้านบาท ตามลำดับ โดยประเมินมูลค่าเหมาะสมใหม่ปี 58 ที่ 5.90 บาท (เดิม 5.30 บาท) ราคาหุ้นมี Upside ของราคา 16% และคาดว่า HANA จะจ่ายเงินปันผลที่ 0.19 บาท (คิดเป็นอัตราตอบแทนเงินปันผล 3.6%) นอกจากนี้ SVI ยังมีเงินสดอยู่สูงถึง 1,800 ล้านบาท (รอรับรู้เงินประกันเพิ่มอีกราว 400 ล้านบาท ในสิ้นปี) มากกว่าความต้องการใช้เงินลงทุน 2H57 และปี 58 ที่ 470 ล้านบาท มองว่าหากไม่มีดีล M&A บริษัทมีโอกาสสูงที่จะจ่ายปันผลพิเศษในปีนี้

ด้าน บล.ฟินันเซีย ไซรัส คาดกำไรปกติ H2/57 ของ SVI จะเติบโตต่อเนื่อง แม้ผู้บริหารจะปรับลดเป้าหมายรายได้ในปีนี้ลงจากเดิมราว 6% เป็น US$300 ล้าน ลงมาใกล้เคียงกับประมาณการของเรา เป็นผลจากคำสั่งซื้อที่แผ่วลงในช่วง Q1/57 และตั้งเป้ารายได้เติบโตราว 15%-20% ในปี 58 ปัจจัยหนุนจะมาจากคำสั่งซื้อของลูกค้ารายใหม่ที่อยู่ระหว่างเจรจารวม 5 ราย ซึ่งเป็นการขยายตลาดสู่กลุ่ม Automotive และกลุ่มสินค้าเดิมอย่าง Industrial และ Medical

ขณะที่แผนธุรกิจใหม่ Solar Product ในตลาดอินเดีย เรายังไม่ให้น้ำหนักรวมเข้าในประมาณการของเราเพราะจัดเป็นธุรกิจใหม่และยังมีความเสี่ยงที่จะไม่ได้รับคำสั่งซื้อ เรายังคงประมาณการกำไรปกติปี 57-58 เติบโต 66.6% Y-Y (จากฐานที่ต่ำในปีก่อน) และ 10.3% Y-Y ตามลำดับ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ