JMT มั่นใจปีนี้กำไรโต 50% หลังเพิ่มพอร์ตหนี้ต่อเนื่อง-เก็บหนี้เกินเป้า

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday September 24, 2014 15:50 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายปิยะ พงษ์อัชฌา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส (JMT) เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจเป้าหมายกำไรสุทธิปี 57 ที่วางไว้จะเติบโตอีก 50% จากปี 2556 อยู่ที่ 75.08 ล้านบาท จะเป็นไปตามนั้น เพราะนอกจากการซื้อหนี้เข้ามาบริหารเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องแล้ว บริษัทยังสามารถจัดเก็บหนี้ได้เกินเป้าหมายที่วางไว้ประมาณ 10% สนับสนุนให้บริษัทฯ มีรายได้จากการจัดเก็บหนี้เพิ่มขึ้น และสามารถตัดต้นทุนกองหนี้ได้มากกว่า 50% ของกองหนี้ที่ซื้อมาทั้งหมด ซึ่งมีอยู่จำนวนทั้งสิ้น 60 กอง เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่า บริษัทฯ สามารถบริหารงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมีความเสี่ยงลดลงนำมาซึ่งผลประกอบการเติบโตมั่นคงอย่างต่อเนื่อง
"จากประสบการณ์การซื้อหนี้ด้อยคุณภาพเข้ามาบริหารอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ปัจจุบันบริษัทฯ มีรายชื่อลูกค้าที่ซื้อหนี้เข้ามาบริหารแล้วกว่า 1.5 ล้านรายชื่อ ซึ่งถือเป็นฐานข้อมูลจำนวนมาก และเป็นจุดแข็งของบริษัทฯ ให้มีความได้เปรียบในธุรกิจนี้ นอกจากนี้หนี้ที่เราซื้อมาเป็นสิทธิ์ของเรายังมีให้เก็บอีกจำนวนมาก ระยะเวลาอีกหลายสิบปีที่ยังต้องเก็บหนี้เหล่านี้ รวมทั้งบริษัทฯ ได้ซื้อหนี้เข้ามาบริหารเพิ่มอีกเนื่องจากมีสถาบันการเงินและหน่วยงานต่างๆ ทั้งรายเก่ารายใหม่ให้ความไว้วางใจ JMT เข้ามาเสนอขายหนี้อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ JMT ถือเป็นผู้นำในธุรกิจบริหารหนี้ และมั่นใจผลงานในช่วงต่อจากนี้จะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง"นายปิยะ กล่าว

ล่าสุด บริษัทฯได้ลงนามในสัญญาโอนสิทธิเรียกร้องในหนี้ด้อยคุณภาพของสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ กับธนาคารธนชาต มูลค่า 465 ล้านบาท และบริษัท บริหารสินทรัพย์เจ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ JMT ได้ลงนามในสัญญาโอนสิทธิเรียกร้องในหนี้ด้อยคุณภาพ ของสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ กับธนาคารธนชาต มูลค่า 986 ล้านบาท รวมมูลค่าจากการซื้อหนี้ด้อยคุณภาพของบริษัทและบริษัทย่อยเข้ามาบริหารในครั้งนี้อยู่ที่ 1,451 ล้านบาท

"หนี้ที่เราซื้อในครั้งนี้มูลค่า 1,451 ล้านบาท เป็นหนี้เสียประเภทเช่าซื้อรถยนต์รายเก่าที่ถูกดันออกมาและหนี้ เสียจากรถคันแรกซึ่งเป็นรายใหม่ผสมอยู่ด้วย โดยหนี้ที่ JMT ซื้อเข้ามาบริหารเป็นหนี้เสียที่ยังไม่ถูกดำเนินการทางกฎหมาย ส่วนหนี้ที่บริษัทบริหารสินทรัพย์เจ จำกัด เข้าซื้อนั้นเป็นหนี้ที่ถูกฟ้องร้องดำเนินการทางกฎหมายแล้ว และหนี้ประเภทดังกล่าวยังมีในระบบอยู่จำนวนมาก จึงเป็นโอกาสของ JMT และบริษัทย่อยในการเข้าไปรุกหนี้ประเภทนี้เข้ามาบริหารเพิ่มอย่างต่อเนื่อง"นายปิยะ กล่าว

สำหรับภาพรวมธุรกิจในปีนี้และแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 3/57 คาดว่า JMT จะมีทิศทางการเติบโตที่ดีมาก เนื่องจากบริษัทฯ รับรู้รายได้ในหนี้ก้อนโตก้อนแรกที่ตัดต้นทุนเสร็จสิ้นตั้งแต่ไตรมาส 1/57

อีกทั้งภาพรวมเศรษฐกิจและสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้มีหนี้เสียในระบบเพิ่มขึ้นมีสถาบันการเงินและหน่วยงานต่างๆ ทยอยขายหนี้ออกมาจำนวนมาก บริษัทจึงปรับเป้าหมายการซื้อหนี้ด้อยคุณภาพเข้ามาบริหารในปีนี้จาก 13,000 ล้านบาท เป็น 20,000 ล้านบาท หรือมีพอร์ตบริหารหนี้ในปี 57 อยู่ที่ระดับ 50,000 ล้าน บาท จากปี 56 มีพอร์ตบริหารหนี้ อยู่ที่ 30,000 ล้านบาท ปัจจุบันบริษัทฯ สามารถซื้อหนี้ด้อยคุณภาพเข้ามาบริหารเพิ่มแล้วที่ประมาณ 14,900 ล้านบาท จึงมั่นใจผลงานในช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้ บริษัทฯ จะสามารถซื้อหนี้ด้อยคุณภาพเข้าบริหารได้ตามเป้าหมายที่วางไว้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ