ในปีนี้บริษัทจะรับรู้รายได้จากการโอนที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมอีก 100-200 ไร่ มูลค่าเฉลี่ยไร่ละ 9 ล้านบาท รวมถึงบริษัทฯยังมีรายได้จากค่าเช่าพื้นที่คลังสินค้า สำนักงานออฟฟิศ เข้ามาอีกด้วย นอกจากนั้น บริษัทยังจะรับรู้รายได้จากโครงการคอนโดมิเนียม มูลค่าโครงการ 3.5 พันล้านบาทที่มีกำหนดรับรู้ฯในช่วงครึ่งปีหลังนี้ราว 2 พันล้านบาท โดยโครงการดังกล่าวมีอัตรากำไรสุทธิราว20%
"ปีนี้พลิกมามีกำไรแน่นอน ซึ่งก็น่าจะใกล้เคียงกับปีก่อน โดยบริษัทฯมีผลขาดทุน 6 เดือนที่ผ่านมาอยุ่ที่ 84.20 ล้านบาท ขณะที่รายได้น่าจะเติบโตอยู่ที่ 3-4 พันล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าเป้าที่วางไว้ที่ 5 พันล้านบาท เนื่องด้วยได้รับผลกระทบจากการเมืองเลยทำให้การโอนที่ดินและโครงการคอนโดฯถูกชะลอออกไปค่อนข้างมาก แต่ยังเติบโตก้าวกระโดด เมื่อเทียบกับปีก่อนที่ทำได้ 945 ล้านบาท"นายอภิชัย กล่าว
ส่วนในปี 58 บริษัทคาดว่ารายได้และกำไรจะเติบโตมากกว่าปีนี้ เนื่องจากจะรับรู้รายได้จากโครงการคอนโดมิเนียมส่วนที่เหลืออีก 1,500 ล้านบาท และจากการขายสินทรัพย์เข้ากองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่มีแผนจัดตั้งขนาด 3,000 ล้านบาท ประกอบด้วย พื้นที่คลังสินค้าและโรงงานอุตสาหกรรมที่บางปะกงขนาด 6 หมื่นตารางเมตร และคลังสินค้าให้เช่าที่ประเทศอังกฤษพื้นที่ 1.5 หมื่นตารางเมตร รวมถึงยังมีที่ดินสำหรับพัฒนาในส่วนของนิคมอุตสาหกรรมอีกกว่า 1,000 ไร่
นายอภิชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทยังเดินหน้าเตรียมนำบริษัทลูกเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ 2 บริษัทในปี 58 และ 59 ประกอบด้วย บริษัท โททอล อินดัสตรี เซอร์วิส ซึ่งประกอบธุรกิจสร้างโรงงานอุตสาหกรรมให้เช่า และจะขายสินทรัพย์เข้ากอง REIT ในอนาคต มีทุนจดทะเบียน 400 ล้านบาท และได้ตั้ง บล.เคที ซีมิโก้ และบล.เออีซี เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดจำหน่ายหุ้น คาดว่าจะสามารถยื่นไฟลิ่งได้ในช่วงไตรมาส 3/58
ขณะที่ในปี 59 จะนำบริษัท วี เอส เอส แอล บิซิเนส กรุ๊ป ซึ่งทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เข้าจดทะเบียน โดยบริษัทดังกล่าวมีแผนพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์แนวราบ มูลค่า 3,000-4,000 ล้านบาทในปีหน้าที่เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา โดยในวันที่ 30 ก.ย.นี้ จะมีการขออนุมัติผู้ถือหุ้นเพื่อซื้อที่ดิน 138 ไร่ มูลค่ากว่า 700 ล้านบาทรองรับการพัฒนาโครงการดังกล่าว ด้าน TFD ซึ่งเป็นบริษัทแม่จะปรับโครงสร้าง โดยจะดำเนินธุรกิจหลักคือนิคมอุตสาหกรรมและผู้ให้บริการสาธารณูปโภคในนิคมอุตสาหกรรม ส่วนการสร้างโรงงานหรือถือหุ้นในกอง REIT รวมไปถึงธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะแยกให้บริษัทย่อยเป็นผู้ดำเนินการ โดย TFD มีนโยบายถือหุ้นบริษัทลูกไม่ต่ำกว่า 60%