ส่วนปี 58 CPN มีแผนเปิดศูนย์การค้าใหม่ 3 แห่ง ที่ระยอง, บางใหญ่ และเลียบทางด่วนรามอินทรา ภายใต้แผนงานเปิดศูนย์การค้าใหม่อย่างน้อยปีละ 3 แห่ง และในปี 59 มีแผนเปิด 4 โครงการ โดยเปิดเผยมาแล้ว 2 โครงการที่นครราชสีมา(โคราช)และนครศรีธรรมราช
พร้อมคาดการณ์กำไรสุทธิปีนี้ที่ 7,308-7,455 ล้านบาท เติบโตจากปี 56 ที่มีกำไรสุทธิ 6,293 ล้านบาท ตามการเพิ่มขึ้นของสาขาและพื้นที่เช่า รวมถึงอัตราเพิ่มค่าเช่าที่สูงขึ้นด้วย
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย(บาท/หุ้น) บล.บัวหลวง ซื้อ 63.00 บล.เอเชีย พลัส ซื้อ 60.00 บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ซื้อ 57.00 บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส ซื้อ 54.00 บล.ทิสโก้ ซื้อ 55.00 บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย) ซื้อ 54.75
น.ส.นวลพรรณ น้อยรัชชุกร ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เอเชีย พลัส กล่าวว่า ปีนี้ยังเป็นปีที่ดีของ CPN เนื่องจากสถานการณ์การเมืองก็ไม่ได้ส่งผลกระทบรุนแรง ผลการดำเนินงานยังเติบโตได้ดีอย่างต่อเนื่องจากการเปิดศูนย์การค้าใหม่ 2 แห่งที่กาะสมุยและศาลายา อีกทั้งยังรับรู้รายได้เต็มปีจากศูนย์การค้าใหม่ที่เปิดไปเมื่อปีที่แล้ว 2 โครงการที่เชียงใหม่ 2 และหาดใหญ่
นอกจากนี้ บริษัทยังนำศูนย์การค้าที่เชียงใหม่ขายเข้ากองทุนอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นการขายโครงการที่มีอายุ 30 ปี ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการ คาดว่าจะสรุปในไตรมาส 3/57 และจะมีกำไรประมาณ 4,500 ล้านบาท คาดว่า CPN จะทยอยรับรู้ฯปีละ 150 ล้านบาท ดังนั้น ช่วงครึ่งปีหลัง(H2/57)คาดว่าผลการดำเนินงานจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง ประเมินกำไรสุทธิปีนี้(2557)ไว้ที่ 7,455 ล้านบาท เติบโต 19% จากปีที่แล้วที่มีกำไรสุทธิ 6,293 ล้านบาท
ในปี 58 CPN จะมีการเปิดศูนย์การค้าใหม่จำนวน 3 แห่งที่ระยอง, บางใหญ่ และเลียบทางด่วนรามอินทรา ภายใต้แผนงานที่จะเปิดศูนย์การค้าใหม่อย่างน้อยปีละ 3 แห่ง โดยในปี 59 ขณะนี้มีแผนเปิด 4 โครงการ ซึ่งเปิดเผยออกมาแล้ว 2 โครงการที่นครราชสีมา(โคราช)และนครศรีธรรมราช
พร้อมให้ราคาเป้าหมายปีนี้ที่ 60 บาท/หุ้น ส่วนปี 58 อยู่ที่ 65 บาท/หุ้น
ด้านนายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ ผู้ช่วยกรรมการอำนวยการ สายงานวิจัยลูกค้าบุคคล บล.บัวหลวง(BLS) ให้เหตุผลที่แนะนำ"ซื้อ"หุ้น CPN ว่า เป็นบริษัทฯที่จะมีการฟื้นตัวขึ้นได้เป็นกลุ่มแรก ๆ โดยในเดือน ก.ค.-ส.ค.เริ่มเห็นการฟื้นตัวแล้วประมาณ 3-5% นอกจากนี้ CPN ยังมีการเปิดศูนย์การค้าอย่างต่อเนื่องด้วย โดยในปี 2558 มีแผนที่จะเปิดศูนย์การค้าใหม่ 3 แห่ง และในปี 2559 มีแผนที่จะเปิด 4 แห่ง นอกจากนี้ ยังอยู่ระหว่างการดำเนินการนำศูนย์การค้าเชียงใหม่ 2 ขายเข้า Property Fund อีกด้วย
ดังนั้นจะเห็นได้ว่า CPN เป็นหุ้นที่มีผลการดำเนินงานเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยคาดการณ์กำไรสุทธิปีนี้(2557)ไว้ที่ 7,308 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว(2556)ที่มีกำไรสุทธิ 6,293 ล้านบาท และในปี 2558 คาดว่าจะมีกำไรสุทธิ 8,431 ล้านบาท ผลการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้นมาจากสาขาที่เพิ่มขึ้น และพื้นที่การเช่าที่มากขึ้น รวมถึงอัตราเพิ่มค่าเช่าที่สูงขึ้นด้วย
ส่วนนายดนัย ตุลยาพิศิษฐ์ชัย นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย) กล่าวว่า หุ้น CPN ถือเป็นหุ้น Defensive ตัวหนึ่งที่มีปัจจัยพื้นฐานที่ดี เหมาะแก่การซื้อลงทุน เนื่องจากผลการดำเนินงานเติบโตได้อย่างต่อเนื่องจากการเปิดศูนย์การค้าใหม่และค่าเช่าที่เพิ่มขึ้นในแต่ละปี ล่าสุดก็มีแผนเปิดศูนย์การค้าใหม่ที่นครศรีธรรมราช มีพื้นที่ให้เช่า 26,000 ตร.ม.ส่งผลให้พื้นที่ให้เช่ารวมปี 59 จะเพิ่มขึ้น 21% และจะช่วยดันกำไรได้ด้วย
พร้อมคาดการณ์กำไรสุทธิปี 57 ไว้ที่ 7,400 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 56 ที่มีกำไรสุทธิ 6,300 ล้านบาท นอกจากนี้ CPN ยังมีการขายสินทรัพย์เข้ากองทุนอสังหาริมทรัพย์ด้วย
"หุ้น CPN จัดเป็นหุ้น Property ที่อยู่ในจำพวก Defensive ที่มีปัจจัยพื้นฐานดี เหมาะแก่การซื้อลงทุนได้ เพียงแต่ราคาหุ้นยังไม่มีปัจจัยเร่ง โดยตอนนี้ยังไม่มี Project ใหญ่ๆ ดังนั้นจึงเป็นลักษณะค่อยๆ ไป"นักวิเคราะห์ฯ กล่าว