นายสิทธิไชย มหาคุณ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่าย Corporate Finance & Equity Capital Markets Group ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย (CIMBT) เปิดเผยว่า ปีนี้จะมีงานด้านวาณิชธนกิจ(IB) มูลค่ากว่า 2.3 หมื่นล้านบาท ซึ่งในช่วงต้นปีที่ผ่านมาธนาคารได้เป็นที่ปรึกษาทางการเงินให้กับบริษัท บี.กริม เพาเวอร์ ในการเข้าซื้อโรงไฟฟ้าของกลุ่มไซม์ดาบี้ของประเทศมาเลเซีย มูลค่ากว่า 5 พันล้านบาท และในช่วงที่เหลือของปีจะมีดีลอสังหาริมทรัพย์อีกอย่างน้อย 2 ดีล หุ้น IPO อีก 2 ดีล และควบรวมกิจการอีก 4 ดีล มูลค่ารวมกว่า 1.8 หมื่นล้านบาท
ภาพรวมปี 58 คาดว่าจะมีแนวโน้มดีขึ้น จากปัจจุบันมีดีลในมือที่รอดำเนินการระดมทุนในปีหน้าอีกราว 7 ดีล แบ่งเป็น การจัดตั้งกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) 1 ดีล มูลค่าราว 4 พันล้านบาท และดีล IPO 3 ดีล มูลค่าการระดมทุนราว 4 พันล้านบาท ที่เหลือเป็นดีล M&A อีก 3 ดีล มูลค่าราว 7-8 พันล้านบาท
ในขณะเดียวกันยังอยู่ระหว่างเจรจาลูกค้าเพื่อที่จะระดมทุนผ่านกอง REIT อีกราว 2-3 ราย มูลค่าการระดมทุนราว 6-7 พันล้านบาท
ทั้งนี้ คาดว่าปีหน้าสัดส่วนรายได้จากงานที่ปรึกษาทางการเงินและการเสนอขายหลักทรัพย์จะอยู่ในระดับสัดส่วน 50:50 จากปีนี้ที่มีสัดส่วนรายได้จากที่ปรึกษาทางการเงินกว่า 60% โดยคาดว่างานด้านวาณิชธนกิจจะมีมูลค่ามากกว่าปีนี้ที่ทำได้กว่า 2.3 หมื่นล้านบาท ซึ่ง
"เรามองว่าภาพรวมงานด้านวาณิชธนกิจเป็นช่วงขาขึ้นอยู่ เนื่องจากปัจจุบันทุกๆคนก็มีการเตรียมพร้อมเพื่อที่จะระดมทุนในหลายๆวิธี เพื่อที่จะรองรับการขยายตัวของเศรษฐกิจในอนาคต ที่รับกับนโยบายของภาครัฐฯที่จะมีการลงทุนด้านต่างๆเพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจให้มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ในช่วงที่ผ่านมานักลงทุนต่างชาติมีความสนใจกับหุ้นไทยมากขึ้นเรื่อยๆเพราะไทยเป็นศูนย์กลางของอาเซียน และเศรษฐกิจยังมีศักยภาพในการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง"นายสิทธิไชย กล่าว