ทั้งนี้ เมื่อรวมมูลค่าผลตอบแทนที่ผู้ลงทุนจะได้รับทั้งในส่วนเงินปันผลและเงินลดทุนแล้ว รวมทั้งสิ้น 0.6536 บาทต่อหน่วย คิดเป็น 12.45% (ต่อปี) ของราคาจองซื้อ หรือมูลค่ารวมทั้งสิ้น 392.16 ล้านบาท โดยกองทุนจะมีกำหนดจ่ายเงินปันผลและคืนเงินลดทุนดังกล่าวในวันที่ 26 กันยายน 2557 นี้
สำหรับผลการดำเนินงานของกองทุน ABPIF จากการลงทุนในสัญญาโอนผลประโยชน์จากการประกอบกิจการไฟฟ้า ของโรงไฟฟ้าอมตะ บี.กริม เพาเวอร์ 1 และ 2 ซึ่งตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร จ.ชลบุรี ที่มีรายได้หลักมาจากการทำสัญญาระยะยาวในการจำหน่ายกระแสไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) และโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร
ตั้งแต่จัดตั้งกองทุนเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2556 โรงไฟฟ้าอมตะ บี.กริม เพาเวอร์ สามารถสร้างผลการดำเนินงานได้อย่างเป็นที่น่าพอใจ เนื่องจากปัจจุบันปริมาณความต้องการใช้ไฟฟ้ายังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้งจากภาคอุตสาหกรรมและภาคครัวเรือน ทำให้กองทุนสามารถจ่ายเงินปันผลได้ในรอบบัญชีที่ผ่านมา (1 ม.ค.-30 มิ.ย 2557) โดยคิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ 6.24% ต่อปี นอกจากนี้กองทุน ABPIF ยังมีกำไรสุทธิซึ่งปรับปรุงแล้ว รวมมูลค่ากว่า 196.74 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 0.3278 บาทต่อหน่วยลงทุน ซึ่งเมื่อคำนวณจากอัตราการจ่ายปันผลในครั้งนี้ ในอัตรา 0.3278 บาทต่อหน่วย ถือได้ว่ากองทุนมีการจ่ายเงินปันผลในอัตราสูงถึง 100% ของกำไรสุทธิที่ปรับปรุงแล้ว
กองทุน ABPIF เริ่มทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2556 ด้วยมูลค่ากองทุน 6,300 ล้านบาท เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการโอกาสรับผลตอบแทนสม่ำเสมอในระยะยาว และต้องการกระจายความเสี่ยงจากการลงทุนในสินทรัพย์อื่นๆ อาทิ หุ้น ตราสารหนี้ โดยนักลงทุนจะมีโอกาสได้รับผลตอบแทน 2 ส่วนคือ เงินปันผลและเงินลงทุนที่ทยอยจ่ายด้วยการลดทุน โดยผู้ลงทุนที่เป็นบุคคลธรรมดาจะได้รับการยกเว้นภาษี ณ ที่จ่าย จากผลตอบแทน เป็นเวลา 10 ปี
กองทุนมีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่เกินปีละ 2 ครั้ง ในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 ของกำไรสุทธิที่ปรับปรุงแล้ว และกองทุนพิจารณาจ่ายส่วนลดทุนคืนไม่เกินปีละ 2 ครั้ง จนกว่าจะสิ้นสุดระยะเวลาตามสิทธิในการรับผลประโยชน์จากการประกอบกิจการไฟฟ้า ทั้งนี้หากกองทุนไม่มีแผนการลงทุนในกิจการเพิ่มเติม กองทุนจะดำเนินการทยอยลดทุนจนกระทั่งสิ้นสุดอายุสัญญาดังกล่าว