"บริษัทตั้งเป้ารายได้จากจีเอ็มเอ็มแชนแนลปี 58 แตะ 1,000 ล้านบาท หลังเริ่มออกอากาศต.ค.นี้ อย่างไรก็ตาม ขึ้นอยู่กับ กสทช.(สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ) จะเริ่มแจกคูปองได้เมื่อไร กี่เปอร์เซ็นต์ และแจกครบ 100% เมื่อไร ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์อื่นๆ ด้วย ก็เข้าใจเพราะเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านปัญหาก็มีทุกที่"นางสายทิพย์ กล่าว
นางสายทิพย์ กล่าวอีกว่า บริษัทตั้งความหวังว่าจะคุ้มทุนภายใน 3-5 ปีข้างหน้า โดยในปี 58 จะเป็นปีที่ใช้เงินลงทุนสูงสุดราว 1 พันล้านบาท หลังจากที่ลงทุนในปีนี้ไปแล้ว ทั้งนี้ เพื่อจ่ายค่าใบอนุญาตทีวีดิจิตอล ซึ่งเป็นการเฉลี่ยจ่าย, ค่าโครงข่าย, ค่าผลิตรายการ, ค่าการตลาด และต้นทุนอื่น ๆ ขณะที่คิดอัตราค่าโฆษณาเฉลี่ยที่ 25,000-30,000 บาท/นาที ซึงอัตราค่าโฆษณาช่วงไพร์มไทม์จะแพงกว่าระดับค่าเฉลี่ย
ในอนาคตข้างหน้านายไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม ประธานกรรมการ GRAMMY ได้วางนโยบายรายได้หลักจะมาจาก 3 ส่วน คือ ธุรกิจเพลง ธุรกิจดิจิตอลทีวี 2 ช่อง คือช่อง one ซึ่งเป็นระบบ HD รวมทั้งช่องจีเอ็มเอ็มแชนแนล ซึ่งเป็นระบบ SD ที่จะทำรายได้ 1 ใน 3 ของรายได้รวม
"ตอนนี้มีเรื่องการลงทุนที่สูงมากเราก็หวังว่า 3-5 ปีข้างหน้าจะคุ้มทุน ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะถึงจุดคุ้มทุนปีแรกเลย โดยเบื้องต้นเราก็ต้องตั้งเป้าไว้ก่อนอยากจะติด 1 ใน 5 ภาย ในแง่เรตติ้งของดิจิตอลทีวีโดยรวม ต้องยอมรับว่าดิจิตอลทีวีตอนนี้ยังมีสถานการณ์ฝุ่นตลบมาก ทั้งจอดำ การแจกคูปองล่าช้าไปมาก ซึ่งก็เป็นเรื่องใหญ่ที่เรากังวล เราก็อยากให้มีความพร้อมมากกว่านี้ ถึงแม้จะเข้าใจเป็นปัญหาของการเปลี่ยนผ่าน..แต่ก็กังวลและเป็นห่วงเพราะเป็นการลงทุนที่สูงมาก ทั้งเรื่องค่าประมูลใบอนุญาต และค่าธรรมเนียมใบอนุญาต ขณะที่ยังไม่มีความพร้อมในบ้านเราที่มากพอ ก็เป็นเรื่องที่น่าห่วง" นางสายทิพย์ กล่าว
นางสายทิพย์ กล่าวว่า ช่องจีเอ็มเอ็มแชนแนลจะมุ่งเป้าผู้ชมที่เป็นแฟน GRAMMY ทุกเพศทุกวัยทุกช่วงวัยตั้งแต่เด็กถึงผู้ใหญ่ ภายใต้สโลแกน"สนุกทุกวัน อยู่ด้วยกันทุกเวลา"โดยรายการเป็นที่กลุ่ม GRAMMY ผลิตเองเกิน 50% และมีผู้จัดภายนอกด้วย โดยขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจากับผู้จัดหลายราย ซึ่งทางช่องจะทยอยปรับผังไปเรื่อยๆ ตั้งแต่ 1 ม.ค.58 ทั้งนี้ หลังจากที่ฝ่ายขายออกไปพบลูกค้ากระแสตอบรับดี
รูปแบบรายการแบ่งสัดส่วน เป็นรายการข่าว 20% รายการสาระ ความรู้ 30% รายการวาไรตี้ ละคร และซิทคอม 40% และอีก 10% เป็นประเภท sport entertainment โดยเฟสแรกตั้งแต่เดือนต.ค.เป็นต้นไปจะมุ่งเน้นการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักโดยประชาสัมพันธ์ให้ผู้ชมซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายรู้จักช่องจีเอ็มเอ็ม แชนแนล ผ่านคอนเทนท์มากมายและมั่นใจว่าจะสามารถครองใจผู้ชมภายในระยะเวลารวดเร็วและขยายฐานผู้ชมได้จำนวนมาก