(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าปรับลงหลังโมเมนตัมตปท.ลบ-จับตามาตรการคุมหุ้นเก็งกำไร

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday September 26, 2014 09:46 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.เคที ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสปรับตัวลง เนื่องจากตลาดต่างประเทศมีโมเมนตัมเป็นลบ หลังตลาดยุโรปและดาวโจนส์ปรับลงไปกว่า 1% และเช้านี้ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ก็อยู่ในแดนลบเช่นเดียวกัน

คืนนี้สหรัฐฯจะประกาศตัวเลข GDP ไตรมาส 2/57 เป็นครั้งที่ 3 ซึ่งคาดการณ์กันว่าจะโตสูงกว่า 4.2% และอาจไปถึง 4.5-5% ดังนั้น อาจเป็นตัวเร่งทำให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)ขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วขึ้น เป็นปัจจัยลบต่อตลาดฯได้ อย่างไรก็ดีในสัปดาห์หน้าจะมีการประชุมธนาคารกลางยุโรป(ECB)ก็อาจจะมีการผ่อนคลายมากขึ้น โดยอาจจะมีมาตรการ QE ก็ได้

ส่วนในประเทศ นักลงทุนรอดูมาตรการคุมเข้มหุ้นเก็งกำไรว่าจะมีหรือไม่และจะออกมาเป็นอย่างไร เพราะมีความพยายามมาระยะหนึ่งในการคุมเข้มขึ้น ทำให้นักลงทุนไม่กล้าเข้ามาลงทุนมากนัก จึง Wait & See ไปก่อน อย่างไรก็ดี นักลงทุนต่างชาติได้ซื้อหุ้นไทยมาหลายวันแล้ว อาจจะช่วยหนุนตลาดฯให้ไม่ปรับตัวลงมากเมื่อเทียบกับตลาดอื่นในเอเชีย พร้อมให้แนวรับ 1,583-1,580 จุด ส่วนแนวต้าน 1,595-1,600 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์คล่าสุด(25 ก.ย.)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 16,945.80 จุด ลดลง 264.26 จุด (-1.54%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,466.75 จุด ลดลง 88.47 จุด(-1.94%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,965.99 จุด ลดลง 32.31 จุด(-1.62%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 286.19 จุด หรือ -1.75%, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 14.94 จุด หรือ -0.73%, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 54.03 จุด หรือ -0.60%, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 3.10 จุด หรือ -0.17%, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 14.15 จุด หรือ -0.43%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 186.57 จุด หรือ -0.78%, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 5.81 จุด หรือ -0.25%
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(25 ก.ย.)1,591.99 จุด เพิ่มขึ้น 0.10 จุด(+0.01)
  • นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 2,361.87 ล้านบาท เมื่อวันที่ 25 ก.ย.57
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ต.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(25 ก.ย.)ที่ 92.53 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 27 เซนต์
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(25 ก.ย.)ที่ 7.22 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 32.28/29 ทรงตัวจากเย็นวานนี้ รอปัจจัยใหม่
  • เอดีบีหั่นจีดีพีไทยปีนี้เหลือ 1.6% เหตุปัญหาการเมือง กระทบบริโภค เบิกจ่ายล่าช้าและลงทุนชะงัก ประเมินปีหน้าสดใส ขยายตัวได้ 4.5% เตือนปัจจัยเสี่ยง หากลงทุนภาครัฐช้าและหนี้ครัวเรือนสูง
  • กรมธนารักษ์จะเริ่มสำรวจราคาที่ดินทั่วประเทศรอบใหม่ในปี 2558 โดยจะประเมินราคาเป็นรายแปลงให้มีผลบังคับใช้ในปี 2559 ส่วนราคาที่ดินจะสูงขึ้นหรือไม่ กรมจะดูจากประวัติการซื้อขายที่ดินแปลงนั้นๆ ในรอบปีที่ผ่านมาและนำมาคำนวณหาค่าเฉลี่ยว่าราคาเพิ่มขึ้นเท่าไร
  • ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีจะแถลงแพ็กเกจกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งหมดในสัปดาห์หน้า เน้นเพิ่มรายได้และสร้างงาน ไม่ใช้นโยบายประชานิยมเหมือนเดิม และไม่อยากให้ตื่นตูมตัวเลขเศรษฐกิจปีนี้ของเอดีบีที่คาดว่าจะขยายตัว 1.6%
  • สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เปิดเผยว่า สบน. ได้แจ้งรายละเอียดการออกพันธบัตรรัฐบาลในไตรมาสแรกปีงบประมาณ 2558 ให้สถาบันการเงินต่างๆ ได้รับรู้โดยมีวงเงินที่จะออกทั้งหมด 9.8 หมื่นล้านบาท เป็นการออกในเดือน ต.ค. 2557 วงเงิน 4.1 หมื่นล้านบาท เดือน พ.ย. 2557 วงเงิน 2.3 หมื่นล้านบาท และเดือน ธ.ค. 2557 อีก 3.4 หมื่นล้านบาท
  • สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.)เปิดเผยว่า ฐานะการคลังภาคสาธารณะตามระบบ สศค. ที่รวมทั้งของรัฐบาลองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) และรัฐวิสาหกิจพบว่า ช่วง 9 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2557 ภาคสาธารณะมีรายได้ 5.54 ล้านล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันปีก่อน 3.81 หมื่นล้านบาท หรือ 0.7% เนื่องจากรัฐวิสาหกิจมีรายได้เพิ่มขึ้น ด้านการเบิกจ่ายมีทั้งสิ้น 5.79 ล้านล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันปีก่อน 2.17 แสนล้านบาท หรือ 3.9% เนื่องจากทั้งรัฐบาล อปท.และรัฐวิสาหกิจมีรายจ่ายเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ดุลการคลังภาคสาธารณะขาดดุล 2.44 แสนล้าน ขาดสูงกว่าช่วงเดียวกันปีก่อน 1.79 แสนล้านบาท หรือ 272%

*หุ้นเด่นวันนี้

  • S หรือ บมจ.สิงห์ เอสเตท เดิมชื่อ บมจ.รสา พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์(RASA) จะเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯวันนี้เป็นวันแรก(26 ก.ย.)หลังจากเข้าซื้อและรับโอนกิจการทั้งหมดของบจ.เอส ไบร์ทฟิวเจอร์ ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในกลุ่มบริษัทบุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด และบริษัท สันติบุรี จำกัด ของนายสันติ ภิรมย์ภักดี ซึ่งดำเนินธุรกิจโรงแรม สันติบุรี บีช รีสอร์ท กอล์ฟ แอนด์ สปา ที่เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี บล.โกลเบล็ก แนะ"ซื้อเก็งกำไร"หุ้น S
  • PTTGC, KTIS(เคทีบี)"เก็งกำไร"เป้าหมาย 81.90 บาท, 15.20 บาท ได้แรงหนุนจากการร่วมมือศึกษาลงทุนพัฒนา Biohub ใช้วัตถุดิบการเกษตรผลิตพลาสติกชีวภาพและเชื้อเพลิงชีวภาพ สร้างมูลค่าเพิ่มทางการเกษตร
  • BEC(เคทีบี)"เก็งกำไร"เป้าหมาย 56 ราคาหุ้นจะได้แรงหนุนจากข่าวเรียกประชุม กสทช.วาระพิเศษ 30 ก.ย.57 กรณีช่อง 3 อนาล็อกคาดจะมีทางออกที่ดีต่อช่อง 3 และไม่เป็นปัญหากับประชาชนทั่วประเทศ
  • AAV(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ซื้อเก็งกำไร"เป้า 5.20 บาท มีโอกาสตอบรับเชิงบวกแผนกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลในสัปดาห์หน้าเกี่ยวกับการท่องเที่ยว คาด 3Q57 พลิกกลับเป็นกำไรจาก 2Q57 ขาดทุนสุทธิ หลังจำนวนผู้โดยสารที่เริ่มฟื้นตัวทั้งในประเทศและต่างประเทศ รับอานิสงส์ยกเว้นค่าวีซ่านักท่องเที่ยวจีน-ไต้หวัน และต้นทุนน้ำมันเชื้อเพลิงปรับตัวลง คาดกำไรสุทธิปี 58 ที่ 1,671 ล้านบาท +240% yoy โตสูงสุดในกลุ่ม และราคาหุ้นยังซื้อขายต่ำที่ระดับ PBV 58 เพียง 0.86 เท่า
  • CPN(โกลเบล็ก)"ซื้อ"เป้า 65 บาท พื้นฐานแกร่งจากเป็นผู้นำค้าปลีกให้เช่าที่มีแผนเปิดสาขาใหม่อย่างต่อเนื่องเพื่อไปสู่เป้ารายได้โตอย่างน้อย 15% ต่อปี มีศักยภาพโตต่อเนื่องตามการเพิ่มขึ้นพื้นที่ให้เช่าและการขึ้นค่าเช่า กำไรครึ่งปีแรก 3,552 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 15%YoY คิดเป็น 48% ของประมาณการทั้งปีที่ 7.4 พันล้านบาท โตราว 18%YoY มี upside จากขายเซ็นทรัลเชียงใหม่เข้ากองทุน CPNRF คาดสรุป 3Q57 จะบันทึกครั้งเดียวหรือทยอยตัดจ่ายตลอดอายุเช่า 30 ปี ปี 58 คาดกำไรปกติเติบโตราว 18%YoY เป็น 8.8 พันล้านบาท

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ