โดยหัวเมืองที่นับว่าเป็นจุดยุทธศาสตร์ทางด้านตะวันตกของจีน คือ ฉงชิ่ง ซึ่งเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกกลางของประเทศจีน จัดเป็น 1 ใน 4 เมืองที่ได้รับการจัดตั้งให้เป็นมหานครของประเทศจีน โดย 3 เมืองที่เป็นมหานครของประเทศจีน ได้แก่ ปักกิ่ง เซียงไฮ้ และเทียนจิน ฉงชิ่งจัดเป็นมหานครเดียวที่ไม่ติดชายฝั่งทะเล และยังเป็นมหานครที่มีขนาดของพื้นที่ใหญ่ที่สุดเมื่อเทียบกับ 3 มหานคร โดยมีพื้นที่รวม 82,000 ตารากิโลเมตร และมีจำนวนประชากรมากถึงเกือบ 30 ล้านคน มีอัตราการเติบโตอยู่ที่ 10.9% ในปีนี้ นอกจากนี้ยังมีระบบโครงสร้างพื้นฐานต่างๆครอบคลุมและเข้าสู่ช่องทางการค้าใหม่ๆ และเป็นประตูที่นำไปสู่จีนตอนใต้
"ฉงชิ่งมีความน่าสนใจมากที่เข้าไปลงทุน เพราะเขามีทรัพยากรอยู่มาก ทั้งทรัพยากรธรรมชาติและทรัพยากรบุคคล ประกอบกับรัฐบาลจีนได้มีการผลักดันให้เป็นเมืองเศรษฐกิจที่สำคัญ การลงทุนในฉงชิ่งที่น่าสนใจจะเป็นการลงทุนเกี่ยวกับการผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ และสินค้าเกษตร แต่การเข้าไปลงทุนต้องเข้าใจบริบทของตลาดประเทศจีน กฏเกณฑ์ต่างๆ รวมไปถึงการหาพาร์ทเนอร์ที่ดี"นายไชยฤทธิ์ กล่าว
สำหรับธนาคารกรุงเทพประเทศจีนได้มีการเปิดสาขาที่ฉงชิ่ง ซึ่งเป็นสาขาที่ 5 ในประเทศจีน ไปเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยมีสาขาที่เปิดไปแล้วในประเทศจีนก่อนหน้า 4 สาขา ได้แก่ เซิ่นเจิ้น เซียงไฮ้ เซี๊ยะเหมิน และปักกิ่ง โดยสำหรับสาขาในฉงชิ่งของธนาคารกรุงเทพได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าเก่าของธนาคารในประเทศจีนและนักลงทุนในประเทศไทยที่ต้องการเข้าไปลงทุนในฉงชิ่ง โดยคาดว่าในปี 58 สาขาฉงชิ่งจะสามารถถึงจุดคุ้มทุนทางด้านสินเชื่อ
อย่างไรก็ตาม การเติบโตของสินเชื่อของธนาคารกรุงเทพในประเทศจีนยังมีการเติบโตขึ้นทุกปี จากการเติบโตขึ้นของลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่ที่มีความต้องการสินเชื่อเพื่อใช้สำหรับการลงทุนในประเทศจีน อย่างเช่น ลูกค้าเก่าในประเทศจีน ลูกค้าจากไต้หวัน และลูกค้าจากไทย นอกจากนี้ธนาคารกรุงเทพยังมีการขยายฐานลูกค้าใหม่ๆไปตามมณฑลต่างๆใกล้เคียง ทั้งนี้การเติบโตของสินเชื่อของธนาคารกรุงเทพในประเทศจีนจะมีการเติบโตอย่างค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งเป็นไปตามเศรษฐกิจในประเทศจีนที่รัฐบาลมีการบริหารงานเศรษฐกิจที่ชะลอตัว โดยอัตราการเติบโตของจีนในปีนี้จะอยู่ที่ 7.5% และคาดว่าใน 1-2 ปีข้างหน้าอัตราการเติบโตของจีนจะอยู่ในช่วง 7-8%
ทั้งนี้ ธนาคารกรุงเทพเชื่อว่าการที่รัฐบาลจีนมีการอัดฉีดเงินเข้าระบบ เพื่อเพิ่มสภาพคล่องในระบบเศรษฐกิจ จะส่งผลให้มีการทำกิจกรรมทางการเงินที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อผู้ให้บริการทางการเงินตามไปด้วย แต่อย่างไรก็ตามธนาคารก็ยังไม่เร่งรัดปล่อยสินเชื่อให้ลูกค้ามากเกินไป การปล่อยสินเชื่อยังเป็นไปตามความเหมาะสม โดยธนาคารจะเน้นการหาแหล่งการจัดหาวัตถุดิบให้แก่ลูกค้าของธนาคาร และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าของธนาคารในระยะยาว ซึ่งจะช่วยลูกค้าให้มีการเติบโตได้อย่างยั่งยืน