โดยกองทุน KT-WEQ จะนำเงินบาทไปลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนหลักในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ กองทุนTempleton Global Fund จดทะเบียนในประเทศลักแซมเบิร์ก และอยู่ภายใต้หลักเกณฑ์ ของ UCITS (Undertakings for Collective Investment in Transferable) และการกำกับดูแลของหน่วยงานกำกับดูแลด้านหลักทรัพย์ และตลาดซื้อขายหลักทรัพย์ที่เป็นสมาชิกของ International Organizations of Securities Commission (IOSCO)
กองทุน Templeton Global Fund มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2557 ประมาณ 1,790 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยนโยบายการลงทุนของกองทุนนั้น มีเป้าหมายในการเติบโตของเงินลงทุนในระยะยาว โดยจะลงทุนในตราสารทุนทั่วโลก รวมถึงกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา ซึ่งกองทุนจะเน้นลงทุนในหุ้นสามัญเป็นหลัก ที่มีหุ้นขนาดใหญ่ มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดมากกว่า 5,000 ล้านเหรียญสหรัฐขึ้นไป ปัจจุบันกองทุนลงทุนในหุ้นสหรัฐประมาณ 30% ยุโรป 20% เอเซีย 18% ส่วนที่เหลือลงทุนในหุ้นกลุ่มประเทศอื่นๆที่มีศักยภาพ
กองทุน KT-WEQ นับเป็นทางเลือกในการกระจายการลงทุนในหุ้นต่างประเทศ นอกเหนือจากการลงทุนหุ้นในประเทศ เพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนของนักลงทุน และ เป็นการเปิดโอกาสรับผลตอบแทนผ่านการกระจายการลงทุนทั่วโลก โดยเน้นหุ้นที่มีราคาตลาดต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐานที่ควรจะเป็นอย่างมาก ผู้จัดการกองทุนสามารถเลือกลงทุนในบริษัทที่มีศักยภาพได้ ทั้งในตลาดที่พัฒนาแล้ว และตลาดที่กำลังพัฒนา โดยไม่ยึดติดกับดัชนีอ้างอิง เพราะเป็นการบริหารกองทุนแบบ Active
สำหรับผลตอบแทนย้อนหลังของกองทุน Templeton Global Fund ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2557 ย้อนหลัง 1 ปี อยู่ที่ 33.74 % และย้อนหลัง 2 ปี อยู่ที่ 20.69% ซึ่งสูงกว่าดัชนีอ้างอิง MSCI All Country World Index โดยย้อนหลัง 1 ปี อยู่ที่ 23.44% และย้อนหลัง 2 ปี อยู่ที่ 16.80%
นอกจากนี้ บริษัทเพิ่มทางเลือกให้กับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ในระดับปานกลาง หรือต้องการกระจายความเสี่ยงในพอร์ตการลงทุน สามารถพิจารณาเลือกลงทุนในกองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ เอฟไอเอฟ 52 (KTFF52) โดยเปิดจำหน่าย ในวันที่ 1-7 ตุลาคม 2557 อายุ 6 เดือน เน้นลงทุนในตราสารต่างประเทศ ประเภท เงินฝาก Bank of China ,เงินฝากประจำ China Construction Bank , MTN ออกโดย Agricultural Bank of China ,MTN ออกโดย ICBC และ MTN ออกโดย Banco BTG Pactualในสัดส่วน 95% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ส่วนที่เหลือลงทุนในตั๋วเงินคลังและพันธบัตรรัฐบาล ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 2.40% ต่อปี