IMPACT ปิดเทรดวันแรกที่ 10.50 บาท ลดลง 0.10 บาท(-0.94%)จากราคาเสนอขายที่ 10.60 บาท/หน่วย มูลค่าซื้อขาย 649.84 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 10.60 บาท ราคาขึ้นสูงสุด 10.80 บาท และราคาลงต่ำสุด 10.50 บาท
บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส(ประเทศไทย)ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะ"ซื้อ"ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์อิมแพ็คโกรท(IMPACT) กำหนดให้ราคาพื้นฐานเบื้องต้นไว้ที่ 12.07 บาท ประเมินด้วยวิธี DDM (Dividend Discount Model) ราคาพื้นฐานมีส่วนเพิ่ม 14% จากราคาจอง ทั้งนี้สมมุติฐานในการประเมินคือ ให้เงินปันผลมีอัตราการเติบโต 10% ในระยะเวลา 3 ปีข้างหน้า ด้วยส่วนคิดลด WACC 9% และ terminal growth ที่ 3%
หากในอนาคตมีรถไฟฟ้าสายสีชมพูผ่านเข้าไปยังโครงการจะยิ่งน่าสนใจ ข้อดีของ REIT คือ กู้เงินได้มากกว่ากองทุนอสังหาฯ แต่ข้อเสียคือ นิติบุคคลต้องเสียภาษี
การขายกอง IMPACT Growth REIT ครั้งนี้จะมีจำนวน 1,482.5 ล้านหน่วย กำหนดราคาขาย 10.60 บาทต่อหน่วย จะมีจำนวนเงินรวม 1.57 หมื่นล้านบาท รวมทั้ง กอง IMPACT Growth REIT จะกู้เงินอีก 3.9 พันล้านบาทหรือประมาณ 20% ของมูลค่ากองทุน รวมแล้วบริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จะระดมทุนได้ 1.96 หมื่นล้านบาท ขณะที่ราคาประเมินมูลค่าสินทรัพย์ 4 อาคาร เป็น 18-19 พันล้านบาท ซึ่งประเมินด้วยวิธี Income Approach
นับว่ากองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์อิมแพคโกรท (IMPACT Growth REIT) เป็นกองแรกในประวัติศาสตร์ตลาดทุนไทย มาทดแทนกองทุนอสังหาริมทรัพย์ที่กำลังจะหมดไป จุดเด่นคือ ลงทุนในกรรมสิทธิ์สมบูรณ์ (Freehold) ของศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมที่ใหญ่ที่สุดในไทยและเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ แสดงว่าจะให้ผลตอบแทนโดยไม่มีวันหมดอายุ คาดว่าอัตราผลตอบแทนปันผลต่อปีปีแรก 6.6%
กองทรัสต์ฯมีแนวโน้มการเติบโตที่สดใส คาดว่าเฉลี่ยต่อปีที่ 10% จากอัตราการเข้าเช่า (OR) และอัตราค่าเช่าที่จะเพิ่มขึ้น รวมทั้งมีสิทธิ์จะซื้อหรือปฏิเสธสินทรัพย์จากอิมแพ็คฯได้ก่อนทั้งที่มีอยู่ในปัจจุบันและที่จะมีในอนาคต