"มีหลายธุรกิจที่คุยอยู่แต่จะเน้นธุรกิจที่ทำกำไรให้กับผู้ถือหุ้นมากที่สุด"นายเฉลิมชัย กล่าว
วันนี้ TTA เปิดเผยว่าให้บริษัท โซลีอาโด โฮลดิ้งส์ พีทีอี แอลทีดี (Soleado) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ TTA ถือหุ้นทั้ง 100% ลงนามในสัญญาจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนของ บริษัท ไซโน แกรนด์เนส ฟู้ด อินดัสตรี กรุ๊ป จำกัด (SINO GRANDNESS) ซึ่งเป็นบริษัทผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มน้ำผลไม้และอาหารกระป๋องที่เติบโตเร็วมากในจีน และเป็นบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศสิงคโปร์ คิดเป็นมูลค่า 954,293,588 บาท
นายเฉลิมชัย กล่าวว่า ผลประกอบการของบริษัทในงวดปีนี้(ปี 58/59)จะ Turnaround ในทุกธุรกิจ โดยคาดหวังรายได้รวมจะเติบโตมากกว่างวดปี 57/58 ที่คาดว่าจะเติบโตราว 40% และมั่นใจว่าเป็นกำไรแน่นอน เพราะงวด 9 เดือน(สิ้นสุด 30 มิ.ย.57)มีกำไรแล้วกว่า 686 ล้านบาท จากปี 56/57 ขาดทุน 5 พันล้านบาท
เนื่องจากธุรกิจเดินเรือเติบโตได้ดีมาก และบริษัทได้ซื้อเรือเข้ามาอีก 6 ลำในปีนี้ ส่งผลให้กองเรือเพิ่มขึ้นเป็น 24 ลำจากแผนของบริษัทที่ต้องการมีกองเรือขนาด 23-25 ลำ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเรือซุปเปอร์แม็กซ์ ขณะที่ธุรกิจพลังงานก็ไปได้ดีเช่นกัน เนื่องจากบริษัทได้ทำสัญญาระยะยาวกับลูกค้า และธุรกิจผลิตและจำหน่ายปุ๋ยของบริษัทบาคองโกในเวียดนามก็มีกำไรปีละ 300 ล้านบาท
“ปีนี้เรา Turnaroud ทั้ง 2 ธุรกิจ ชิปปิ้งต้นทุนเราก็ต่ำทุกอย่างเป็น fixed cost ถ้าดัชนีค่าระวางเรือปรับขึ้นไปอีกก็เป็นกำไรทั้งนั้น ขณะที่ธุรกิจปุ๋ยมีกำไรปีละ 300 ล้านบาท กำไรต่อเนื่องมาตลอด ส่วนธุรกิจพลังงานเราก็กำไร วันนี้พร้อมหมดแล้วสามารถทำกำไรกลับมา จากนี้ไปเราต้องหา Investment เข้ามาเพิ่มเพื่อให้ TTA เป็นบริษัทลงทุนที่น่าเชื่อถือและทำได้จริง การเข้าลงทุนธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มในจีนเป็นการ balance port ของ TTA ไปอีกขั้น"นายเฉลิมชัย กล่าว
“ถ้ามองเรคอร์ด 3 ไตรมาส เราทำได้ดีมาก ไตรมาส 4 ก็ยังสามารถทำกำไรได้ดีอยู่ ธุรกิจจะโดดเด่นในไตรมาส 4 โดยเฉพาะชิปปิ้งเชื่อว่าปีนี้ทั้งปีกำไรจะโตขึ้น"นายเฉลิมชัย กล่าว
ด้านนานไกรลักขณ์ อัศวฉัตรโรจย์ ประธานเจ้าหน้าที่ทางการเงิน TTA กล่าวว่า บริษัทสามารถทำกำไรได้ดีเนื่องจากค่าระวางเรือในปีนี้สูงขึ้นมาที่ 11,000 เหรียญ/ลำ/วัน จากจุดคุ้มทุนที่ 8,500 เหรียญฯ/วัน/ลำ และยิ่งหากในอนาคตค่าระวางเรือปรับขึ้นไปอีก ก็จะยิ่งทำให้กำไรของบริษัทเพิ่มขึ้น เพราะมีต้นทุนคงที่
ส่วนการนำบริษัทย่อยคือ บริษัท PM Thoresen Asia Holdings (PMTA) ซึ่งถือหุ้น 100% เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยนั้น คงเลื่อนไปเป็นต้นปี 58 จากเดิมคาดไว้ปลายปีนี้ เนื่องจากมีการปรับเปลี่ยนแผนธุรกิจให้ TTA เข้าลงทุนใน SINO GRANDNESS แทน จากเดิมจะใช้ PMTA ที่เป็นบริษัทโฮลดิ้ง
แต่จากนี้บริษัทก็จะแจ้งให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)รับทราบเพื่อพิจารณาอนุมัติให้เริ่มนับหนึ่งไฟลิ่งของ PMTA เนื่องจากบริษัทเตรียมข้อมูลไว้ครบแล้ว และไม่รีบเข้าจดทะเบียน เพราะ PMTA ไม่มีความจำเป็นใช้เงินในขณะนี้ เพียงต้องนำบริษัทเข้าจดทะเบียนเพื่อให้โครงสร้างแข็งแกร่งมากขึ้นเท่านั้น