ทั้งนี้ บริษัทจะมีการประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 17 ต.ค. 57 เพื่อเสนอให้พิจารณาอนุม้ติแผนจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนให้ PP ไม่เกิน 500 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท กำหนดราคาเสนอขายหุ้นละ 2 บาท หรือคิดเป็นมูลค่าระดมทุนทั้งหมดราว 1 พันล้านบาท เมื่อผู้ถือหุ้นให้ความเห็นชอบแล้วทางคณะกรรมการบริษัทก็จะดำเนินการในขั้นต่อไป
“เราจัดสรรหุ้นเพิ่มทุน PP จำนวน 500 ล้านหุ้น ตอนนี้ก็มีคุยอยู่หลายบริษัทมีที่เป็นสื่อทีวีและโฆษณาเราก็มีเจรจากันอยู่ ที่เราขาย PP เพราะว่าเราอยากหาพันธมิตรที่เข้ามาเสริมศักยภาพของบริษัทในทุกๆด้าน โดยเฉพาะธุรกิจออนไลน์ที่เราจะทำธุรกิจ Video on Demand คาดว่าจะเปิดให้บริการในปีหน้า สำหรับตอนนี้เราก็หาพันธมิตรมาซื้อหุ้นไปเรื่อยๆ ยังไม่ได้ระบุว่าเป็นคนนั้นคนนี้ ซึ่งวันที่ 17 ตุลาคมนี้เราก็ต้องนำเรื่องนี้เข้าขออนุมัติผู้ถือหุ้น และถ้าผู้ถือหุ้นอนุมัติแล้วทางคณะกรรมการบริหารเราก็จะมาจัดการและคัดสรรผู้ที่จะเข้ามาซื้อหุ้น PP อีกที"นายสิทธิชัย กล่าว
สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัทในปีนี้ นายสิทธิชัย คาดว่า บริษัทจะสามารถพลิกกลับมามีกำไรได้ แม้ว่าครึ่งปีแรกจะมีผลขาดทุน 22.20 ล้านบาท เนื่องจากมีการปิดสาขาที่จำหน่ายโฮมวีดีโอของบริษัทที่มียอดขายไม่ดี ส่งผลให้จำนวนสาขาของ DNA ลดลงเหลือ 300 สาขา และส่งผลกระทบต่อยอดขาย แต่ยังมั่นใจรายได้ในปีนี้จะเป็นไปตามเป้าหมายที่ 2.2 พันล้านบาท ซึ่งใน 6 เดือนแรกของปี 57 บริษัทมีรายได้ 740.08 ล้านบาท
นายสิทธิชัย กล่าวว่า ในบปีนี้บริษัทจะรับรู้รายได้ของบริษัท บัน จำกัด ที่ DNA ถือหุ้น 100% และยังมีรายได้จากการซื้อลิขสิทธิภาพยนตร์ รวมถึงคอนเทนท์ต่างๆ ที่จะต่อยอดรายได้จากการเข้าฉายในโรง และยอดจำหน่ายดีวีดีและวีซีดีในจุดจำหน่ายของบริษัทที่มีอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งรวมทั้งสาขาของ DNA และจุดจำหน่ายในห้างค้าปลีกอีกราว 1,800 จุด
นอกจากนั้น บริษัทจะเริ่มขายและรับรู้รายได้กล่องรับสัญญาณทีวีดิจิตอล(Set top box)ในช่วงไตรมาส 4/57 เป็นต้นไป ซึ่งทางคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) จะเริ่มแจกคูปองในวันที่ 10 ต.ค. 57 คาดว่าจะมีรายได้จากการขายกล่อง Set top box ราว 300 ล้านบาท เพราะบริษัทจะสรุปความชัดเจนในความร่วมมือกบกับบริษัทจดทะเบียนในกลุ่มค้าปลีกยักษ์ใหญ่ในเดือน ต.ค.นี้ เพื่อเพิ่มช่องทางในการขายกล่องดังกล่าว