นายประทีป ทีปกรสุขเกษม กรรมการผู้จัดการ บมจ.สมาร์ทคอนกรีต(SMART) เปิดเผยว่า การเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอเป็นวันแรกของ SMART ในวันนี้ (2 ต.ค.57)ได้รับความสนใจจากนักลงทุนเช่นเดียวกับช่วงการเสนอขายหุ้นไอพีโอ เนื่องจากบริษัทมีแผนขยายธุรกิจที่ชัดเจนทั้งในด้านการขยายตลาด การจำหน่าย การผลิต ซึ่งจะส่งผลให้ผลประกอบการมีโอกาสเติบโตอย่างก้าวกระโดดในอนาคต สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น
ทั้งนี้ คาดว่าในปีนี้รายได้รวมของบริษัทจะมีการเติบโตไม่ต่ำกว่า 10-15% จากปี 2556 มีรายได้รวมจากการขายอิฐมวลเบาอยู่ที่ 416.48 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 20.81 ล้านบาท โดยการเติบโตของรายได้ในปีนี้เป็นผลจากการขยายช่องทางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในประเทศ ไปยังลูกค้าโครงการขนาดใหญ่เพิ่มขึ้น ขณะที่ฐานตลาดลูกค้าเดิมได้มีคำสั่งซื้อสินค้าเพิ่มขึ้น ตามการขยายตัวของความต้องการใช้งานอิฐมวลเบาที่เพิ่มสูงขึ้น ขณะเดียวกันบริษัทยังมีแผนที่จะขยายตลาดไปยังต่างประเทศอีกด้วย
"ในปีที่ผ่านมาผลการดำเนินงานมีการเติบโตอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ซึ่งบริษัทพยายามสร้างการเติบโตทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง การระดมทุนในครั้งนี้เป็นโอกาสสำคัญที่บริษัทจะเพิ่มอัตรากำลังการผลิตให้เพียงพอต่อคำสั่งซื้อของลูกค้าทั้งในและต่างประเทศที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น ขณะเดียวกันบริษัทจะมุ่งเน้นเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานด้านต่างๆให้ดียิ่งขึ้น อาทิ ระบบการบริหารจัดการ การลดต้นทุนการเพิ่มความสามารถในการทำกำไรฯลฯ"นายประทีป กล่าว
ด้านนายสมภพ ศักดิ์พันธิ์พนม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทโปร แมเนจเม้นท์ จำกัด(APM)ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน เปิดเผยว่า SMART เป็นบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญในการดำเนินธุรกิจด้านอิฐมวลเบาอันดับต้นๆ ของประเทศ ผลิตภัณฑ์ของบริษัทได้รับการยอมรับในเรื่องของคุณภาพทั้งจากลูกค้าร้านค้าวัสดุก่อสร้างและลูกค้าโครงการ
ขณะเดียวกันธุรกิจของบริษัทยังมีแนวโน้มขยายตัวเป็นอย่างมากจากแผนการดำเนินธุรกิจที่มุ่งขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศ ปัจจัยเหล่านี้จะผลักดันให้ SMART เติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต และสามารถสร้างผลตอบแทนในระดับที่น่าพอใจให้กับนักลงทุนได้ทั้งในระยะกลางและระยะยาว
"การลงทุนในหุ้นของSMARTเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีของนักลงทุน เพราะบริษัทมีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งในทุกๆด้าน เชื่อว่าหลังจากการระดมทุนแผนการดำเนินงานที่บริษัทวางไว้จะเป็นไปตามเป้าหมายและนำมาสู่การสร้างผลตอบแทนที่ดีอย่างแน่นอน"นายสมภพกล่าว
ส่วนนายนิมิต วงศ์จริยกุล กรรมการบริหาร บล.โนมูระพัฒนสิน(CNS) ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย เปิดเผยว่า แม้เสนอขายหุ้นไอพีโอของ SMART จะมีผู้ได้รับการจัดสรรไปกว่า 8,000 ราย แต่เชื่อว่ามีนักลงทุนอีกเป็นจำนวนมากที่ยังให้ความสนใจลงทุนในหุ้นของบริษัท ส่งผลให้การซื้อขายวันแรกไปจนถึงช่วงต่อจากนี้มีกระแสตอบรับที่ดี
เนื่องจาก SMART มีการเติบโตที่ดีมาโดยตลอดควบคู่ไปกับการไม่หยุดนิ่งในการขยายตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ ขณะที่ราคาเสนอขายหุ้นไอพีโอ SMART ที่ราคา 1.90 บาท/หุ้น ถือว่าอยู่ในระดับที่น่าสนใจเป็นอย่างมากโดยมี P/E 24.7172 เท่า คิดเป็นส่วนลดประมาณ 36.17% และบริษัทยังมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิ