ส่วนปีนี้ธนาคารยังคงเป้าสินเชื่อเติบโต 5% มองแนวโน้มในช่วงไตรมาส 4/57 การจับจ่ายใช้สอยของภาคประชาชนเริ่มฟื้นตัวดีขึ้น เห็นได้จากสินค้าไม่คงทนยังมีความต้องการสูง เป็นผลจากมาตรการต่าง ๆ ภาครัฐ ขณะที่ความต้องการสินค้าคงทนยังอยู่ในระดับทรงตัว เนื่องจากที่ผ่านมามีโอเวอร์ซัพพลายค่อนข้างมาก และมองว่าสินค้าคงทนน่าจะดีขึ้นได้ในช่วงไตรมาส 2/58
สำหรับหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL)ในปีนี้ยังอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ ซึ่งที่ผ่านมาธนาคารมีกองทุนที่แข็งแกร่งในระดับ 180%
นายวิชิต ยังกล่าวในงานสัมมนา"EIC Conference: Thailand in Transformation"ในหัวข้อ"ปรับมุมมอง ส่องกลยุทธ์ธุรกิจยุคปฏิรูป"ว่า ประเทศไทยอยู่ในช่วงของการปฎิรูปเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศ โดยเฉพาะด้านการเมืองและด้านสังคม เพื่อสร้างความโปร่งใส่และความมีเสถียรภาพของประเทศให้เติบโตต่อไปได้ ขณะที่สิ่งสำคัญของการปฎิรูปอีกประการหนึ่ง คือ การปฎิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจของไทย ทั้งการส่งออก การผลิต ภาคแรงงาน และภาคการเกษตร หากไม่สามารถปรับปรุงโครงสร้างให้ทันสมัยและรับกับการเปลี่ยนแปลงของโลกได้ ไทยก็จะติดอยู่ในภาวะที่เรียกว่า middle income trap หรือกับดักของประเทศรายได้ปานกลาง ซึ่งต้องหาทางออกจากกับดักนี้ให้ได้
ทั้งนี้ นายวิชิต มองว่าการจะก้าวข้ามกับดักดังกล่าวไปให้ได้ ควรให้ความสำคัญกับขีดความสามารถของการแข่งขัน เรื่องของทรัพยากรบุคคล หรือแรงงาน โดยปัจจุบันไทยกำลังมีปัญหาการขาดแคลนแรงงาน เพราะโรงเรียนในระดับอุดมศึกษาผลิตนักศึกษาออกมาไม่ตรงกับสายอาชีพที่ตลาดต้องการ ดังนั้น ควรปรับระบบการศึกษาให้ตรงกับตลาดเพื่อสร้างความสมดุล